คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

สมิงสามผลัด

เป็นข่าวที่เป็นที่สนใจและมีการพูดถึงมากๆ เรื่องของ ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูสกลนคร ที่ยืนยันว่าตัวเองเป็นแพะในคดีขับรถชนคนเสียชีวิตเมื่อปี 2548

ต่อมาศาลฎีกาตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน แต่ถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือนก็ได้รับการอภัยโทษเมื่อเม.ย.2558 ก่อนทำหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงยุติธรรม ขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่เมื่อเดือนธ.ค.2559

ทั้งนี้ ช่วงที่ครูจอมทรัพย์อยู่ในเรือนจำนั้น มีเพื่อนครูคนหนึ่งพยายามสืบหา ผู้กระทำผิด กระทั่งอ้างว่าเจอตัวคนที่ขับรถชนคนตายตัวจริงแล้วคือ นายสับ วาปี

เรื่องนี้จึงกระหึ่มโซเชี่ยล เพราะครูสาวคนหนึ่งต้องกลายเป็นแพะ ถูกจับติดคุก

ล่าสุดกระทรวงยุติธรรมส่งเรื่องไปให้ศาลนครพนม เพื่อให้วินิจฉัยตามพยานหลักฐานใหม่ว่าสมควรรื้อฟื้นคดีขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่

แต่ในส่วนของตำรวจนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ยืนยันว่าตำรวจทำคดีนี้ครบถ้วน ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งตำรวจจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขั้นตอนการรื้อฟื้นคดี แต่ก็พบพิรุธหลายอย่าง จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ. ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ สืบสวนหาข้อมูลจนกระทั่งมีพยานหลักฐานที่สามารถเอาผิดและดำเนินคดีกับ “ขบวนการรับจ้างรับผิด” ซึ่งมีผู้ร่วมขบวนการประมาณ 7 คน

ตำรวจชุดตรวจสอบระบุว่ามีข้อมูลว่าเมื่อปลายปี 2556 คนกลุ่มนี้ได้พาบุคคลอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่นายสับ วาปี ไปแสดงตัวว่าเป็นคนขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548

นี่คือพิรุธแรก!

อีกหนึ่งพิรุธคือ การตรวจสอบพบว่ารถยนต์ทะเบียน บค 56 มุกดาหารที่อ้างว่านายสับ วาปี ขับชนคนเสียชีวิตเมื่อ ปี ’48 แต่กลับไม่ปรากฏหลักฐานชื่อนายสับ วาปี เป็นคนครอบครองรถคันดังกล่าว

ส่วน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาป้องครูจอมทรัพย์ โดยมั่นใจว่าพยานหลักฐานใหม่ที่มีนั้นเชื่อว่าสามารถเปลี่ยนแปลงคำตัดสินของศาลทั้ง 3 ศาลได้ ขณะเดียวกันสังคมก็ตั้งข้อสงสัยว่าครูจอมทรัพย์พ้นโทษมาแล้วจะกุเรื่องขึ้นมาเพื่อติดคุกอีกทำไม

คดีนี้ยังไม่รู้ว่าศาลจะรื้อคดีขึ้นมาใหม่หรือไม่ และต้องพิสูจน์ให้ชัดว่าครูจอมทรัพย์จะเป็นแพะหรือแกะ

แต่ที่แน่ๆ ตำรวจกับกระทรวงยุติธรรมนั้น งานนี้มีได้-เสีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน