สภาไทยในยุคพล.อ.ประยุทธ์ : ทิ้งหมัดเข้ามุม

สภาไทยในยุคพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลย สำหรับถ้อยคำของ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ที่ประกาศชัดเจนว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. เป็น 1 ใน 3 ชื่อผู้สมควรจะได้รับเลือกจากรัฐสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ หลังการเลือกตั้งก.พ.2562

เพราะหากดูที่มา ตัวบุคคลที่เข้าไปทำงาน หรือกระทั่งแค่ชื่อพรรค ก็แสดงให้เห็นว่าเชื่อมโยงแนบแน่นกับรัฐบาลทหารมากน้อยเพียงใด

เมื่อเปิดตัวกันให้ชัดเจนเช่นนี้ ก็ถือเป็นเรื่องดีมากกว่าเสีย จะได้ไม่ต้องทนคำครหาว่าเป็นอีแอบ ไม่กล้าประกาศตัวว่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร

กองเชียร์ก็จะได้ทำหน้าที่กันให้สุดลิ่มทิ่มประตู!??

และต้องยอมรับว่าวินาทีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นตัวเต็งที่สุดที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ

ไม่ว่าจะเป็นการยึดกุมอำนาจบริหารแผ่นดิน สามารถอนุมัติใช้งบประมาณ รวมทั้งรัฐธรรมนูญที่มีผู้รู้ระบุว่าดีไซน์มาให้บางคนบางกลุ่ม

การก้าวสู่นายกฯอีกสมัยไม่ใช่เรื่องยาก

แถมครั้งนี้แม้จะไม่ลงสมัครเลือกตั้งเอง แต่ก็พออนุโลมได้ว่ามาจากการเลือกตั้ง

ดูดีดูเท่กว่าการยึดอำนาจตั้งมากโข

แต่ยังไงก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ ก็คือเรื่องการควบคุมอารมณ์อย่างมีสติ

โดยเฉพาะเวลาเจอคำถามที่จี้ใจดำ

เพราะจะเห็นบ่อยครั้ง ที่หลุดอารมณ์ฉุนเฉียว สบถ แม้ในที่ที่ควรทำน้อยที่สุดอย่างในห้องประชุมอย่างเป็นทางการ

แม้จะพยายามทำตัวดีใจเย็นเท่าไหร่ แต่ก็ดูจะไม่ค่อยได้ผลนัก

จึงน่าคิดว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ไปทำหน้าที่นายกฯ และแน่นอนเมื่อไม่ใช่สภาที่มาจากการปฏิวัติ

หากไปเจอคำถามพรรค์นี้จากฝ่ายค้าน ทั้งการตั้งกระทู้ถาม หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ

จะยับยั้งชั่งใจไหวเหรอ

หรือจะผูกนวม กันไว้ที่หน้าประตูสภา ซัดกันให้หนำใจหากพูดจาไม่เข้าหู ตามสไตล์โผงผาง

ให้ได้ชื่อว่าสภาไทยไปมวยโลก

ก็คงสนุกดีไม่หยอก

โดย…รุก กลางกระดาน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ทิ้งหมัดเข้ามุม : ทำไม “บิ๊กตู่” หงุดหงิด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน