คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับบทวิเคราะห์ของเว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ สื่อระดับโลกที่ศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของประเทศที่จะเกิดรัฐประหารในปี 2560 ที่วิเคราะห์ภายใต้ฐาน 161 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งระบุว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 2 ที่มีโอกาสเกิดรัฐประหารซ้ำอีก
เป็นรองก็แต่ประเทศบุรุนดี ประเทศด้อยพัฒนาในทวีปแอฟริกา
แถมยังมีโอกาสที่จะทำสำเร็จมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ !??
โดยให้เหตุผลว่ายังมีปัจจัยการจำกัดสิทธิเสรีภาพของพลเรือนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การรัฐประหารปี 2557
หนำซ้ำยังวิเคราะห์อีกว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2560 จากคำมั่นคำสัญญาของท่านผู้นำ ยังอาจจะเป็นตัวแปรทำให้เกิดรัฐประหารได้อีกเช่นกัน
เมื่อสื่อระดับโลกออกโรงวิเคราะห์ นอกจากน่ารับฟังและยังชวนให้คิดตาม
เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศก็ยังน่าวิตก
ไม่ว่าเรื่องรัฐธรรมนูญที่ยังไม่ประกาศใช้ กฎหมายลูกที่ยังไม่คลอด ตลอดจนแผนการปรองดอง ที่ยังจับต้องไม่ได้ว่าจะทำอีท่าไหน ที่จะให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน
หากไม่บริหารความสัมพันธ์ให้ดี สถานการณ์จะเป็นไปตามบทวิเคราะห์ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเสียทีเดียว
ทีนี้ หากเกิดรัฐประหารซ้ำอีก ก็ไม่รู้ว่าจะนำพาประเทศไปอยู่จุดใดกันแน่
แต่แทนที่ผู้มีอำนาจจะรับฟัง แล้วนำไปทบทวนไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมา
กลับมัวแต่ตอบโต้ด้วยวาทะทาง การเมือง
อาทิ การรัฐประหารจะทำได้ต้องมีเงื่อนไขสุกงอม และประชาชนต้องเห็นด้วย
และยังระบุว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลยังอยู่ในระดับสูง
ฟังแล้วก็แปลกใจ ว่าหากได้รับความนิยมสูงขนาดนี้ จะกลัวอะไรกับการลงสนามเลือกตั้งภายใต้กติกาที่เป็นธรรม
และยังชวนให้คิดถึงสถานการณ์รัฐประหารปี 57 ว่าจำได้หรือไม่ว่า กว่าจะปลุกปั้นสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้
หลายองค์กรที่เคยเป็นที่พึ่ง ที่ประชาชนเคยเชื่อมั่น ต้องทุ่มเททำอะไรกันลงไปบ้าง
จนตอนนี้เรียกว่าเกียรติยศศักดิ์ศรีที่เคยมี มันเลือนหายไปหมดแล้ว
หากลืมไปแล้ว ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่จำได้ติดตา