ทางเลือกทางรอด
ทางเลือกทางรอด : กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลาย สำหรับเรื่องการควบคุมอารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.
แม้ก่อนหน้านี้จะออกมาให้สัมภาษณ์ เตรียมตัวเป็นนักการเมือง ปรับปรุงเรื่องอารมณ์ร้อนมาหลายครั้งหลายคราว
แต่ก็ไม่ได้มีผลในทางปฏิบัติใดๆ
ล่าสุดก็แสดงความหงุดหงิดระหว่างการแถลงผลงาน 4 ปีของรัฐบาลคสช. เมื่อพูดถึงการลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชาชน
จนหลุดคำ “มึงมาไล่ดูสิ” สร้างความฮือฮาจนติดเทรนด์ฮิตในทวิตเตอร์อับดับ 1
แม้สุดท้ายพล.อ.ประยุทธ์ จะออกมาขอโทษ ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
แถมยังถูกวิจารณ์หนักขึ้นอีก เมื่อ 2 นักศึกษาที่ไปทำกิจกรรม ‘เดินขบวนเชิญให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง’ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
กลับถูกตำรวจจับกุม และดำเนินคดี ข้อหาผิดพ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ
ทำให้บรรยากาศที่ใกล้จะเลือกตั้ง และกลับสู่ประเทศประชาธิปไตยขุ่นมัวลงไปอย่างน่าเสียดาย
จริงๆ แล้ว เรื่องการควบคุมอารมณ์นี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่กุมอำนาจในการบริหารประเทศ
เพราะหากปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ย่อมกระทบต่อการตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆ
ดังที่มีคำกล่าวว่าเรื่องของ ‘ภาวะผู้นำ’ เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนใครจะมองอย่างชื่นชมว่าเป็นคนพูดตรงกันอย่างไรก็สุดแล้วแต่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนประเภทเดียวกันจะจับกลุ่มรวมกันตามทฤษฎีของสัตว์สังคม
แต่ที่น่าเป็นห่วง ก็หากพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ในวังวนการเมืองต่อ หรือเป็นนายกฯ อีกสมัย ย่อมเสี่ยงกับการหงุดหงิดอารมณ์เสีย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แถมจะเป็นการหงุดหงิดที่ไม่มี ม.44 อยู่ในมือ แต่มีฝ่ายค้านอยู่ในสภา
ยังดีที่พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ตกปากรับคำขบวนขันหมากของพรรคพปชร. และบอกจะให้คำตอบวันที่ 8 ก.พ. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสมัครส.ส.
เท่ากับว่ายังมีโอกาสที่จะให้ทบทวน หากคิดว่าไม่เหมาะจะถอนตัวตอนนี้ก็ยังทัน
ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น
โดย… รุก กลางกระดาน
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง