คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดกระแสร้อนแรงในโลกโซเชี่ยล เพราะมีการแชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งไลฟ์เฟซบุ๊กกันแบบสดๆ แต่ไม่ได้ไลฟ์ธรรมดา เพราะเธอเล่นถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นจนเปลือยทั้งตัว
ทำให้มียอดคนดูนับล้านวิวทีเดียว ได้ยอดไลก์ถล่มทลาย
แต่ในจำนวนคนดูก็ใช่ว่าจะมีแต่คนเชียร์ให้ถอดเสื้อผ้า เพราะยังมีคนส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะไม่ควร ผิดศีลธรรมอันดีงาม เป็นแบบอย่างไม่ดีต่อเยาวชน
เรียกร้องให้เอาผิดกับสาวรายนี้ รวมทั้งเพจที่เปิดไลฟ์อนาจารด้วย
ถัดมาอีกไม่กี่วัน เกิดโชว์ไลฟ์อื้อฉาวอีกคลิป คราวนี้เป็นหญิงสาวนำชุดนักเรียนมัธยมมาสวมแล้วโชว์เต้นสยิวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป เรียกยอดไลก์ถล่มทลายอีกเช่นเคย
แล้วก็โดนวิจารณ์แหลกอีกเช่นกัน
เรื่องนี้เป็นปัญหาทางสังคมที่มาพร้อมๆ กับเทคโนโลยีใหม่ๆ การระวังป้องกันจึงทำได้ลำบาก
แต่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุชัดเจนว่า ตำรวจ เข้มงวดกวดขันเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ยิ่งมีการนำชุดนักเรียนมาสวมใส่ด้วยแล้วยิ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสมหนัก ที่สำคัญอย่าคิดว่าการกระทำลักษณะนี้จะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะหากเข้าข่ายจะมีความผิดตามกฎหมายทันที เช่นเดียวกับกรณีของหญิงสาวแต่งชุดนักเรียนมาเต้นโชว์ล่าสุดนี้ เจ้าหน้าที่ก็เตรียมติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ฉะนั้น เตือนกันไว้ล่วงหน้า กลุ่มคน ที่คิดไลฟ์ส่อลามกอนาจารในโซเชี่ยล เพียงหวังยอดไลก์ พึงระวังไว้ให้ดี เพราะถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) ระบุว่าห้ามนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอม พิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ล่าสุดสาวที่ไลฟ์เปลือยโดนตั้งข้อหา ไปแล้วเป็นรายแรก
พร้อมคนที่อยู่เบื้องหลังเพจลามกอนาจารก็โดนข้อหาใช้จ้างวานด้วย
