ลดงบประมาณทหาร
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ลดงบประมาณทหาร – กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางสำหรับเรื่อง ‘หนักแผ่นดิน’ ที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จุดขึ้นมาตอบโต้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดต นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย
ขยายผลจากข้อถกเถียง กลายเป็นการลากไส้กันออกมาแฉถึงพฤติกรรมของคนยุคต่างๆ รุ่นต่อรุ่น
เพื่อตอบคำถามว่า ใครกันแน่‘หนักแผ่นดิน’กว่ากัน
ตลอดจนความเป็นห่วงเรื่องการปลุกระดมให้เกิดการแบ่งแยกเป็นฝักฝ่าย และอาจนำมาสู่เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ดังที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย
แต่สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาให้ละเอียด ก็คือที่มาของวิวาทะครั้งนี้ มันเกิดขึ้นจากการที่พรรคเพื่อไทย เสนอให้ลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม 10 เปอร์เซ็นต์ ให้ได้เงิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำงบไปตั้งกองทุนเถ้าแก่ใหม่
นี่ใช่ไหมที่เป็นประเด็นการตอบโต้อย่างรุนแรงจากผบ.ทบ.
ซึ่งท่าทางดังกล่าวยังถูกโอบอุ้มอย่างเป็นมิตร จากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมื่อตรวจสอบดูจากพ.ร.บ.รายจ่ายประจำปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557-2562 รวม 6 ปี ได้รับการจัดสรรงบประมาณถึงกว่า 1 ล้านล้านบาท
จึงไม่แปลกที่จะถูกตั้งคำถาม และก็เข้าใจได้ถึงการแสดงออกในลักษณะที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ เพราะเงินระดับแสนล้านในแต่ละปีไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
แถมในสภาวะบ้านเมืองง่อนแง่น รัฐบาลใช้แต่งบขาดดุล หนี้สาธารณะ พุ่งสูงถึง 7 ล้านล้านบาท
และที่สำคัญคือไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เสนอเช่นนี้ แม้แต่พรรคที่มองว่าสนิทแนบแน่นกับกองทัพ ถึงขึ้นไปตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหาร อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาพูดเรื่องลดงบประมาณกองทัพเช่นกัน
เท่ากับว่าทุกคนมองเห็นสัญญาณแล้วว่าปล่อยให้เป็นต่อไปอย่างนี้ไม่ได้
ถึงเวลาต้องประหยัดมัธยัสถ์ คุมเข้มการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ให้ซ้ำรอยจีที 200 เรือเหาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้
แต่หากไม่อยากให้ลดงบประมาณ ก็ให้พรรคการเมืองที่สนับสนุน ใส่ไว้ในนโยบายหลัก
แล้วถามใจประชาชนดูกันสักที ว่าเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร
รุก กลางกระดาน