ความคาดหวังต่อกกต.
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย… รุก กลางกระดาน
ความคาดหวังต่อกกต. : เข้มข้นขึ้นทุกขณะ สำหรับการเลือกตั้ง 24 มีนา 2562 ที่ถือเป็นการชี้ชะตาอนาคตประเทศไทยครั้งสำคัญ หลังจากที่มีคณะรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองไปนานร่วม 5 ปี
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การตื่นตัวต่อการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ในอัตราที่สูงมากถึงมากที่สุด
อย่างไรก็ตามมีเรื่องที่ไม่ค่อยสบายใจนัก อย่างการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ผ่านไปหลายประเทศ
อย่างกรณีที่มาเลเซีย ที่มีคนไทยจำนวนมากไปรอใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่กลับต้องเผชิญอุปสรรคด้วยความไม่พร้อม ทั้งเรื่องคูหาที่เตรียมไว้น้อยเกินไป ต้องใช้ลังกระดาษมาทดแทน
เรียกว่าทำๆ กันให้เสร็จๆ ไป เหมือนแก้ผ้าเอาหน้ารอด
หรืออย่างที่ประเทศจีน ในเขตดูแลของกงสุลเซี่ยงไฮ้ ที่มีประชาชนโวยว่าบัตรเลือก ตั้งของผู้ลงทะเบียน หายไปกว่า 500 ใบ
ข้อเท็จจริงจะเป็นความบกพร่อง เลินเล่อ หรือจงใจให้เกิดปัญหา เพื่อหวังผลอย่างหนึ่งอย่างใด
เป็นเรื่องที่กกต.จะต้องสอบสวนทวนความเพื่อชี้แจงต่อสังคมให้ทราบ
ไม่รวมกับการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครสลับพรรคกันไปมาจนวุ่นวาย กลายเป็นปัญหาสร้างความสับสน
ทั้งที่งบประมาณจัดการเลือกตั้งครั้งนี้สูงถึง 5.8 พันล้านบาท
แค่งบที่กกต.ทั้ง 7 ไปดูงานก็ปาเข้าไป 12 ล้านบาทแล้ว ซึ่งน่าเสียดายที่ประเทศที่มีปัญหาอาจไม่ศิวิไลซ์เพียงพอ เลยไม่ได้เห็นปัญหาด้วยตาตัวเอง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็คงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไปไม่ได้
ที่จริงเรื่องประสิทธิภาพของกกต.ชุดนี้ ก็อย่างที่ทราบกันว่าหากพิจารณาจากที่มาแล้ว จะไปคาดหวังให้เก่งฉกาจเลอเลิศ คงลำบาก
ดังจะเห็นว่าการพิจารณาเรื่องร้องเรียน อย่างโต๊ะจีนพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่คืบหน้า
จะมีรวดเร็วอยู่บ้างก็เรื่องร้องให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ
และไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อมีร้องเรียนยุบพรรคอนาคตใหม่ และพรรคเพื่อไทย จะรวดเร็วอีกหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ สังคมก็คาดหวังว่ากกต. จะทำงานโดยคิดถึงประชาชน ที่เสียสละภาษีเป็นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ตลอดจนเงินไปที่ดูงานต่างประเทศ ให้มากกว่าภาคส่วนอื่นๆ ที่คนสงสัยว่าจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ
ก็คงจะทำประโยชน์ต่อประเทศชาติได้มากขึ้น