ได้อยู่ต่อหรือได้กลับบ้าน?

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย มันฯ มือเสือ

ได้อยู่ต่อหรือได้กลับบ้าน? – เข้าสู่โหมดนับถอยหลัง 10 วันก่อนเลือกตั้ง

สถานการณ์พรรคการเมืองที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ประชาธิปไตยกับสืบทอดอำนาจ

ตามรูปเกมช่วงโค้งสุดท้ายยังพลิกไปพลิกมาในลักษณะผลัดกันรุกผลัดกันรับ

บางพรรคมุ่งหาเสียงชูตัวบุคคล บางพรรคชูนโยบายหาเสียงแบบล้ำๆ บางพรรคชูทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน

ในซีกฝ่ายประชาธิปไตยนั้นออกอาการเป๋เล็กน้อย ภายหลังไทยรักษาชาติ ตัวแปรสำคัญในสนามโดนยุบพรรค

แต่พอตั้งหลักได้ก็กลับมามีแรงฮึด

สมาชิกพรรคที่สิ้นสภาพการเป็นผู้สมัคร ประกาศเทคะแนนเสียงให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ เพื่อชาติ และเพื่อธรรม เป็นต้น

ตั้งเป้าให้ได้ส.ส.รวมกันอย่างต่ำ 251 ที่นั่ง ไปจนถึงทะลุ 375 ที่นั่งในสภา เพื่อส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค สืบทอดอำนาจ

กลับบ้านแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ขณะที่พรรคสืบทอดอำนาจและพรรค ในเครือข่ายจากที่คึกคักในตอนแรก แต่พอถึงช่วงโค้งสุดท้ายกลับเครื่องชอร์ตไปดื้อๆ

โดยมีการวิเคราะห์สาเหตุสำคัญของอาการเครื่องชอร์ต มาจากการที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ยังคงมีสถานะคลุมเครือว่าเป็น หรือไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

จนเกิดปัญหาไม่กล้าไปขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส.ของพรรค เหมือนกับแคนดิเดตนายกฯ พรรคคู่แข่งอื่นๆ ได้ เพราะกลัวขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง

ล่าสุดยังมาโดนพรรคลูกไล่หักเหลี่ยม ทั้งประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนแคนดิเดต นายกฯ พรรคสายตรงสืบทอดอำนาจ

จนนำมาสู่ข้อครหา “หมาเจ็บ เห็บโดด”

ถึงกระนั้นภายใต้สถานการณ์เพื่อนฝูงทยอยตีจาก

พรรคสืบทอดอำนาจก็ยังมีพรรค 250 ส.ว. พรรคข้าราชการ พรรคองค์กรอิสระ พรรคทุนใหญ่ พรรค คสช. พรรคทหาร เป็นกำลังสำคัญ

จึงไม่แปลกหากนับจากนี้เป็นต้นไปจะเห็นพรรคกลไกสนับสนุนการสืบทอดอำนาจเหล่านี้

ขับเคลื่อนอย่างหนักในช่วงโค้งสุดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน