คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
ถือเป็นภาวะที่น่าสงสารและเห็นใจทีมโฆษกรัฐบาล ยุค พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด หรือ โฆษกไก่อู เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อต้องถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.ตำหนิต่อหน้าสื่อมวลชน ในที่สาธารณะ
ถึงกรณีการชี้แจงเรื่องวัดพระธรรมกายและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่
โดยระบุว่า “โฆษกรัฐบาลไม่ได้เรื่อง ผมพูดเองดีกว่า ชี้แจงไม่ได้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง”
ทั้งที่เส้นทางของ พล.ท.สรรเสริญ เติบโตมาจากสายโฆษกโดยเฉพาะ
ดังที่จะจำได้จากกรณีเป็นโฆษกศอฉ. ในการขอคืนพื้นที่ และกระชับพื้นที่ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ที่ลงเอยมีผู้เสียชีวิตถึง 99 ศพ
นอกจากเป็นโฆษกอธิบายสถานการณ์เป็นคุ้งเป็นแควแล้ว ยังรู้จักกันในนามเป็นผู้เปิดเผยผังล้มเจ้าอันโด่งดังอีกด้วย!??
เมื่อพ้นเหตุการณ์นั้น ก็ยังวนเวียนเป็นโฆษกสารพัดตำแหน่ง แถมตอนนี้ยังควบตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
ดังนั้น การชี้แจงให้สาธารณชนเข้าใจ จึงถือเป็นภารกิจหน้าที่ที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในคำตำหนิครั้งนี้ก็มี สิ่งที่ดูจะเป็นประโยชน์ เนื่องจากเมื่อ นายกฯระบุว่าจะเป็นผู้ชี้แจงด้วยตัวเอง สังคมย่อมอยากจะรับฟัง
หากจะเปิดเวทีสาธารณะเพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาพลังงานโดยเฉพาะในภาคใต้ ที่ ใช้เป็นเหตุผลในการเดินหน้าโครงการ โรงไฟฟ้าถ่านหิน ก็คงจะดีไม่น้อย
จะได้รับทราบข้อมูลในทุกด้านอย่างละเอียดลออว่าจริงๆ แล้วการผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ไม่เพียงพอจริงหรือไม่
พลังงานถ่านหินที่ว่ามีเทคโนโลยีทำให้เป็นพลังงานสะอาด เป็นไปได้ขนาดไหน และหากดำเนินการจะต้องใช้งบประมาณเท่าใด
แน่นอนว่าผู้ที่สนับสนุนอย่างชาวกระบี่ 500 คนที่มากันเองโดยไม่มีใครระดม ก็ย่อมอยากทราบว่าเมื่อพวกเขาเชียร์อย่าง เต็มที่
อีกทั้งรัฐบาลก็บอกเองว่าคนค้านมีแต่เอ็นจีโอ ซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่
ทำไมโครงการถึงต้องเซ็ตซีโร่
หากนายกฯช่วยชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจก็เป็นเรื่องดี และยังช่วยให้โฆษกไก่อูได้เปิดหูเปิดตาด้วยเช่นกัน
