เหมือนนั่งดูละครสัตว์

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย… รุก กลางกระดาน

เหมือนนั่งดูละครสัตว์ยังคงไม่มีความชัดเจนใดๆ สำหรับการเมืองไทย เพราะแม้จะผ่านการเลือกตั้งมาแล้วร่วม 2 เดือน ก็ยังไม่รู้เลยว่าใครจะมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

แถมการเมืองในสภาพปัจจุบัน มีแต่ความมึนงงให้เห็นในแต่ละวัน คล้ายๆ กับเป็นโลกเสมือนจริง

เหมือนดูละครสัตว์อะไรอย่างนั้น!??

อย่าง พรรคที่ได้ ส..อันดับ 1 ที่ควรจะมีศักดิ์และสิทธิในการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลก่อน กลับออกมาประกาศยอมเสียสละยอมทุกทาง ไม่เป็นนายกฯ ไม่เอาตำแหน่งประธานรัฐสภา

ขอเพียงให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้เดินหน้าต่อ

แต่อีกฝ่ายอย่างพรรคอันดับ 2 ก็ไม่ต้องไปสนใจคำว่ามารยาท ประกาศตั้งรัฐบาลเหมือนกัน แถมเก็บตกส..เอื้ออาทร ที่คะแนนต่ำกว่าคะแนนส..พึงมี แต่กลับได้เข้าสภาเพราะสูตรพิสดารของกกต.

จนได้ส..ที่คุณสมบัติเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ บางคนพูดจาให้รู้เรื่องก็ยังยาก แถมแสดงท่าทีเหมือนป่วยโรคจิตเภท ที่ควรได้รับการรักษา

แต่จะเสื่อมเสียอย่างไร หากยังโหวตได้ก็ถือว่าพอจะมีประโยชน์ให้ได้ใช้อยู่บ้าง

อย่างไรก็ตามแม้เสียงยังไม่พอ ก็ไม่ต้องกังวล เมื่อมีสภาส..รีไซเคิล ที่ใช้เงิน 1.3 พันล้านบาท เลือกพวกเดียวกันเอง จากกองทัพ จากรัฐมนตรี จากสนช. และจากสารพัดชื่อย่อที่ทำงานร่วมกับคสช.

ยิ่งไปกว่านั้นยังแสดงมาตรฐานใหม่ ที่ผู้มีหน้าที่เลือกส.. กลับเลือกตัวเองไปทำหน้าที่ โดยไม่ต้องเขินอายอะไร

ไม่เพียงแค่นั้นยังพาญาติโกโหติกา เพื่อนฝูง คนสนิท เข้ามากันให้พรึบ เล่นเอาคำว่าสภาผัวเมียในสมัยทักษิณ เป็นเรื่องกระจอกไปเลยทีเดียว

ความสนุกยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น พรรคการเมืองที่เป็นตัวแปร แทนที่จะแสดงท่าทีให้ชัด ก็เงื้อง่าราคาแพง อ้างฟังเสียงประชาชน ซึ่งน่าแปลกว่าเมื่อประชาชนส่งเสียงผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว จะให้ทำยังไง

หรือจะให้เหมารถชักชวนไปตะโกนดังๆ ให้ได้ยินที่หน้าบ้านของเจ้าของพรรคพวกนี้หรืออย่างไร

หรือจริงๆ แล้วเป็นแค่หมากเกมหนึ่ง ก็เอาล่อเอาเถิด ต่อรองให้ได้ประโยชน์สูงที่สุด

จริงๆ แล้วถ้าเอากันอย่างนี้ บางทีประเทศนี้ไม่จำเป็นต้องมีประชาชนเลย ก็ได้มั้ง

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน