หมดเวลาเกรงใจประชาชน

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย… รุก กลางกระดาน

หมดเวลาเกรงใจประชาชน – ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยจริงๆ ที่แฮชแท็ก #ประชาธิปัตย์ทรยศประชาชน จะกลายเป็นคำฮิตในโลกออนไลน์

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ประกาศมติพรรค เข้าร่วมรัฐบาล และสนับสนุนพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย

เพราะก่อนการเลือกตั้งจุดยืนของพรรค ที่ประกาศไว้โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ในการ ดีเบตหรือหาเสียงในสถานที่ต่างๆ

ล้วนย้ำคำหนักแน่นว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ไม่สนับสนุนพล..ประยุทธ์

ถึงขั้นลั่นคำว่าหมดเวลาเกรงใจกันแล้ว

ก่อนนั้นก็นึกว่าหมายถึงหมดเวลาเกรงใจพล..ประยุทธ์ แต่แล้วความจริงก็ปรากฏว่า ที่เลิกเกรงใจนั้น ก็คือประชาชนนั่นเอง

ตอกย้ำให้เห็นอีกว่าสโลแกนของพรรค ที่ว่าประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริตมันกลวงโบ๋ขนาดไหน

ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าสุจริตหรือวิปริตกันแน่

เล่นเอาถึงขั้นอดีตหัวหน้าพรรคต้องประกาศลาออกจากส.. เพื่อรักษาเกียรติภูมิของตัวเองเอาไว้

จนเกิดคำถามว่าแล้วเกียรติภูมิของพรรค เอาไปโยนทิ้งไว้ที่ไหน

ที่สำคัญคือการอ้างเหตุผลในการเข้าร่วมรัฐบาลที่ให้ไว้ 5 ประการ ซึ่งประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด ก็คือการปิดสวิตช์คสช. และข้อตกลงเรื่องยอมรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ฟังแล้วก็น่าขบขันว่าการขับไล่คณะรัฐประหาร ก็คือการเป็นคานหามให้มาเป็นนายกฯอย่างสมบูรณ์ใช่หรือไม่

ส่วนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ จะมั่นใจได้มากน้อยเพียงใด หรือจะแค่ตีกิน แก้แค่บางมาตราให้ไม่โดนด่ามาก

แต่เรื่องสำคัญอย่างส..หรือยุทธศาสตร์ ชาติ 20 ปี ที่เป็นกล่องดวงใจของคสช. จะกล้าแตะต้องกันจริงหรือไม่

นอกจากนี้ยังน่าสงสัยว่าที่พรรคประชาธิปัตย์กล้ากลืนน้ำลายตัวเองเช่นนี้ เป็นเพราะอุดมการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน หรือเก้าอี้รัฐมนตรีเกรดเอ ที่ได้รับจัดสรรจากพรรคร่วมรัฐบาลกันแน่

สิ่งเหล่านี้จะพิสูจน์กันในอนาคตอันใกล้

แต่ที่แน่ๆ เหตุการณ์ครั้งนี้ย่อมไม่ใช่ จุดต่ำสุดของพรรคประชาธิปัตย์

ยังทำสถิตินิวโลว์ได้อีกแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน