ใกล้จมจริงๆ
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย เภรี กุลาธรรม
ใกล้จมจริงๆ – เพราะถูกปรามาสว่าเป็นลิงซนซ้ำหิวบ่อย แค่ให้กล้วยกิน พอท้องอิ่มหนำก็คงไม่มีอะไรแล้ว
เอาเข้าจริง พรรคประชาธรรมไทยไม่ธรรมดา ใช้มติคณะกรรมการบริหารพรรค ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลจริงๆ แล้ว
การเมืองภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร พลิกกลับมาหรือไม่ คงแล้วต่อข้อเสนอและประโยชน์ต่างตอบแทน
อาจจะเป็นเรื่องๆ ไป หรือตลอดกาลนาน ชาวบ้านร้านช่องยิ่งต้องช่วยกันจับตา
ก่อนหน้านี้ พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ประกาศแยกทางออกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ
หัวหน้าพรรคถึงขั้นจะขอเวลาพรรคร่วมฝ่ายค้านสัก 5-8 นาที ร่วมอภิปรายญัตติทั่วไป กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณด้วย
วันนั้นก็อาจจะได้เห็นลีลา “เต้ ตัวเปิด” ว่าจะจริงจังขนาดไหน หรือแค่ขู่เล่น
ล่าสุด มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ปูดว่านอกจาก 2 เสียงที่เปิดตัวแยกมาแล้ว ยังมีพรรคเล็กอีก 3 เสียงพร้อมจะมาร่วมด้วย
ถ้าเป็นเช่นนี้ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำก็คงจะใกล้จมจริงๆ
นอกจากนี้ ยังมีคดีล้มประชุมกลุ่มผู้นำอาเซียนที่พัทยา ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาตัดสินแล้วให้จำคุก 1 ในแกนนำ เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา
มีนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายพายัพ ปั้นเกตุ นายนิสิต สินธุไพร และนายวรชัย เหมะ ตกเป็นจำเลยด้วย และยังไม่ได้ไปฟังคำพิพากษา
ที่น่าสนใจคือกรณีของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นหนึ่งในแกนนำก็จะถูกพิพากษาด้วย
จะมีผลถึงสิ้นสุดสถานภาพส.ส.ทันทีด้วย ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ กางรัฐธรรมนูญยืนยันตรงกัน
ส่งผลให้เสียงสนับสนุนรัฐบาลใน สภาเน็ตๆ มี 251 เสียงเท่านั้น
เกินกึ่งหนึ่งเพียง 1 เสียงเท่านั้นเอง หวาดเสียว เสี่ยงจมน้ำอย่างยิ่ง
ในเดือนตุลาคมนี้ สภาจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 กฎหมายการเงินที่มีความสำคัญ ชี้เป็นชี้ตายรัฐบาลได้
รัฐบาลเรือเหล็กที่หวังว่าจะอยู่ยาว ก็คงถึงกาลอวสาน ถ้ากฎหมายนี้ไม่ผ่าน