คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

รุก กลางกระดาน

ยังคงรอคอยความยุติธรรมอยู่อย่าง ต่อเนื่อง

สำหรับญาติของเหยื่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมของรัฐบาล ในช่วงเดือนเม.ย. – พ.ค.2553

เหตุการณ์ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะ ผอ.ศอฉ. สั่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้าปฏิบัติการ “ขอคืนพื้นที่” จากประชาชนที่มาเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาและจัดการเลือกตั้ง

ด้วยข้ออ้างมีผู้ก่อการร้าย ชายชุดดำ เป็นเหตุให้มีเขตใช้กระสุนจริง ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 99 ศพ

และไม่เพียงแค่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง แต่ยังรวมถึงชีวิตของอาสาพยาบาล เด็กนักเรียน หรือกระทั่งผู้บริสุทธิ์อีกหลายชีวิตที่ต้องสังเวยกับเหตุการณ์ดังกล่าว

รวมถึงอาคารห้างร้าน โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า ที่ถูกเผาวอดวาย ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำกันแน่

เพราะการลุกไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังแกนนำนปช.ประกาศยุติชุมนุม ถูกคุมขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปแล้ว

เหลือเพียงเจ้าหน้าที่รัฐที่ตรึงกำลังอยู่รอบพื้นที่

ซึ่งวันที่ 19 พ.ค.นี้ ก็จะครบ 7 ปี ของเหตุการณ์

แต่ก็ยังไม่มีความจริงใดๆ ปรากฏออกมาสู่สาธารณชนว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวการส่งผลให้เกิดความสูญเสียในครั้งนี้

และไม่ใช่เพียงชีวิตของชาวบ้านที่ สูญเสียไป แต่ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐ อาทิ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่ถูกระเบิดสังหารเสียชีวิต บริเวณถนนดินสอ ก็ยังไม่มีความชัดเจน

นอกจากโยนว่าเป็นฝีมือของชายชุดดำ แต่ชายชุดดำแหวกวงล้อมเจ้าหน้าที่ไป ก่อเหตุได้อย่างไร กลับไม่ปรากฏ

เรื่องราวเหล่านี้จึงกลายเป็นปริศนา ดำมืด ที่รอการคลี่คลายอยู่

จริงๆ แล้วนอกจากเรื่องคดีความ ที่ควร จะนำคนผิดมาลงโทษแล้ว

เหตุการณ์นี้ถือเป็นประวัติศาสตร์บทสำคัญหน้าหนึ่งของประเทศไทยเลยด้วยซ้ำ

จึงควรอย่างยิ่งที่จะต้องชำระสังคายนาให้ชัดเจน

ให้สังคมได้จดจำประวัติศาสตร์ เพื่อ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้อีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน