คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
สรุปชัดเจนแล้วว่า เสียงตูมหน้า โรงละครแห่งชาติเมื่อค่ำวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นเป็นระเบิดไปป์บอมบ์
เรื่องนี้เกิดความสับสนพอสมควร เพราะหลังเกิดเหตุหมาดๆ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ซึ่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์ชัดถ้อยชัดคำว่าเหตุดังกล่าวไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นแค่อุบัติเหตุจากแรงดันท่อพีวีซีที่เป็นขาตั้งป้ายรถประจำทาง
แต่วันรุ่งขึ้น พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาค 1 ระบุว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นประทัดยักษ์
หน่วยงานความมั่นคงยังรายงาน ตรงถึง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า อาจเป็นฝีมือกลุ่มบุคคล ไม่หวังดีที่อยู่เบื้องหลังและเหตุการณ์ระเบิดที่เคยเกิดขึ้นหน้าสำนักงาน สลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ต.ท.ศานิตย์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงเรื่องที่ฟันธงว่า ไม่ใช่เหตุการณ์วางระเบิดว่า “มันเป็นกลยุทธ์สับขา เพื่อหลอกให้คนร้ายตายใจ”
พล.ต.ท.ศานิตย์บอกด้วยว่าการให้สัมภาษณ์ออกมาตอนนั้นว่าไม่ใช่ระเบิด มันเป็นกลยุทธ์หลอกล่อคนร้าย เพื่อเปิดโอกาสให้ตำรวจทำงานกันในทางลับ
“แท้จริงแล้ว ตำรวจทำงานกันในทางลับ ซึ่งเป็นกลยุทธ์อีกส่วน อีกทั้ง หลักฐานส่วนประกอบระเบิดก็พบในคืนเกิดเหตุเลย หลังจากที่ผู้สื่อข่าวมาเหยียบมาย่ำเต็มถนนไปหมด รวมทั้งตอนนั้นมีคนเยอะมากจึงดูอะไรไม่ได้ กระทั่งได้จัดเจ้าหน้าที่เรียงหน้ากระดานเดิน จนพบชิ้นส่วนประกอบวัตถุระเบิดกระเด็นข้ามถนนไปอยู่บนฟุตปาธฝั่งตรงข้าม” ผบช.น.กล่าว
เมื่อนักข่าวถามถึงการติดตามจับกุมคนร้ายลอบวางระเบิด พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า “ต้องจับมันให้ได้ สิบชาติก็ต้องจับให้ได้ ตราบใดที่คนชื่อศานิตย์อยู่ ต้องตามจับมันให้ได้”
ต้องเฝ้าติดตามด้วยใจระทึกว่า กลยุทธ์ “สับขาหลอก” จะทำให้คนร้ายตายใจจนกระทั่งจนมุมตำรวจในที่สุดหรือไม่
