คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
ถือเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง สำหรับเหตุไปป์บอมบ์ ที่หน้าโรงละครแห่งชาติ
ที่คนร้ายอุกอาจถึงขนาดมาลงมือใน เขตกทม.ชั้นใน พื้นที่เฝ้าระวัง แถมใกล้สถานที่สำคัญอย่างท้องสนามหลวง
แม้พลังทำลายจะไม่รุนแรงถึงขนาดคร่าชีวิตผู้คน แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีผู้หวังก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นจริงๆ
หนำซ้ำยังมีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุระเบิดหน้ากองสลากฯ เมื่อเม.ย.ที่ผ่านมา
และสามารถเชื่อมโยงกับระเบิดเมื่อปี 2550 หรือเมื่อ 10 ปีก่อนอีกด้วย
น่าสนใจอย่างยิ่งว่าส่วนใหญ่เหตุระเบิดป่วนกรุงที่ไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้นั้น มักจะเกิดขึ้นภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร!!?
มาถึงคราวนี้ แม้ครั้งแรก พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. จะออกตัวแรง เร่งสรุปว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ
ซึ่งก็พอเข้าใจ เพราะเป็นเหตุกะทันหัน แถมคนร้ายยังใช้ดินปืนปริมาณน้อย ทำให้ตรวจสอบได้ยาก
ดีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. มีความรอบคอบ ไม่รีบฟันธง และบอกให้ตรวจสอบหาหลักฐานให้ชัดเจนว่าเป็นเหตุใดกันแน่
และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างละเอียด ก็พบหลักฐานเป็นตัวตั้งเวลา ถ่านกระดุม และเศษสายไฟ
ฟันธงได้เลยเป็นระเบิดป่วนเมืองแน่นอน!??
แต่จะเป็นฝีมือใครนั้น คงต้องรอผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็จะได้รู้กันว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ หากวิเคราะห์ถึงการลงมือสร้างสถานการณ์ ก็มีข้อสันนิษฐานได้หลายหลาก ทั้งเรื่องมุ่งทำลายชื่อเสียงรัฐบาลในช่วงยึดอำนาจครบ 3 ปี
หรือจะสร้างเรื่องให้คิดว่าเป็นฝีมือคสช.เอง เพื่อดิสเครดิต ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
แต่ที่แน่ๆ ก็คือกลุ่มคนที่ลงมือนี่ต้องระดับพระกาฬ เพราะสามารถพกวัตถุระเบิดเข้าพื้นที่ควบคุมเข้มงวด ลงมือ แล้วหลบหนีไปได้ลอยนวล
แม้ที่ผ่านมาไม่สามารถจับกุมคนร้ายคลี่คลายคดี
คราวนี้จะฉกาจฉกรรจ์ หรือลงเอยเหมือนเดิม
ต้องติดตามดู