คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

รุก กลางกระดาน

น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งสำหรับเหตุระเบิดที่หน้าห้องวงษ์สุวรรณ ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ที่คนร้ายเลือกวันก่อเหตุเป็นวันครบรอบ 3 ปี การ รัฐประหารของคสช. เสมือนต้องการส่งสัญญาณบางอย่างต่อสังคม

และเมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นระเบิดลักษณะเดียวกันกับที่เกิดขึ้นที่หน้ากองสลากถนนราชดำเนิน และหน้าโรงละครแห่งชาติ

ผิดแผกไปก็คือคนร้ายเลือกเป้าหมายเป็นจุดอ่อนไหวอย่างโรงพยาบาล แถมเวลาก่อเหตุก็เป็นช่วงกลางวันที่ มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาใช้บริการ

ที่เพิ่มเติมมาอีกอย่างคือการใช้ตะปูเข้ามาเป็นสะเก็ดระเบิด เหมือนกับต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำลายล้าง

จนมีผู้บาดเจ็บถึง 24 ราย

ต่างจากการระเบิด 2 ครั้งหลังสุดที่ต้องการเพียง แค่สร้างสถานการณ์ ไร้สะเก็ดระเบิด ผู้บาดเจ็บก็เพียงเล็กน้อย

หนำซ้ำการลงมือก็เลือกหน้าห้องวงษ์สุวรรณ ที่เป็นโซนวีไอพี สำหรับให้บริการนายทหารระดับพันเอกขึ้นไปเท่านั้น

คำถามคือใคร หรือคนกลุ่มใดกันแน่ที่เป็นผู้ลงมือสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนครั้งนี้

เป็นคนกลุ่มเดิม หรือพวกลงมือลอกเลียนแบบกันแน่

และมีจุดประสงค์ เป้าหมายอย่างไร

เพราะก็มีหลากหลายทฤษฎี ไม่ว่าจะเป็นการก่อเหตุเพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านคสช. หรือจะมีปมขัดแย้งภายในกันเองจนต้องลงมือสร้างสถานการณ์ รวมทั้งประเด็นทางการเมืองในเรื่องกระชับอำนาจ

ก็ต้องรอผลการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ

แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนลงมือก่อเหตุ ต้องมีความเชี่ยวชาญ และคุ้นเคยพื้นที่มากพอสมควร จึงลอบเข้าไปก่อเหตุได้อย่างง่ายดาย

แต่ไม่ว่าใครเป็นผู้ลงมือ ก็ต้องประณามการกระทำครั้งนี้ เพราะไม่ว่าหวังผลอะไร ก็ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว

ก็ได้แต่คาดหวังว่า ภายใต้การบริหารงานของคสช. ที่กุมอำนาจมานานกว่า 3 ปี มุ่งเน้นเรื่องมิติความมั่นคงเป็นหลัก จะมีศักยภาพพอที่จะจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

ไม่ปล่อยให้ลอยนวล ไปก่อเหตุซ้ำซากอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน