คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
มันฯ มือเสือ
สร้างความสั่นสะเทือนให้คสช.มากที่สุด นับตั้งแต่หลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา
สำหรับเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 25 คน สาหัส 1 คน
หลังเกิดเหตุมีการตั้งข้อสังเกตไว้ 3-4 ประเด็น ล้วนแล้วน่าสนใจ
ตั้งแต่ประเด็นการเลือกลงมือในวันสัญลักษณ์ครบรอบ 3 ปีคสช.
เป้าหมายคือ “ห้องวงษ์สุวรรณ” ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ
สำหรับระเบิดที่ใช้เป็นชนิดไปป์บอมบ์ เหมือนเหตุระเบิดหน้ากองสลากเก่าเมื่อวันที่ 5 เม.ย. และหน้าโรงละครแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา
ต่างกันตรง 2 ครั้งก่อนเป็นแค่ระเบิดป่วนเมือง หวังผลสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน
อีกทั้งช่วงเวลาก่อเหตุก็อยู่ในช่วงค่ำ
แต่หนนี้เป็นการลงมือกลางวันแสกๆ
ยิ่งกว่านั้นยังหวังผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย
เนื่องจากการตรวจหลักฐานเศษชิ้นส่วนระเบิดพบการใช้เศษโลหะและตะปูเป็น ส่วนผสม
สำหรับวิธีลงมือ เบื้องต้นคนร้ายน่าจะซุกระเบิดไปป์บอมบ์ แท่งกลมๆ ยาวประมาณ 1 คืบ
ไว้ในแจกันดอกไม้
แล้วอำพรางตัวเป็นคนเยี่ยมไข้ เดินถือดุ่มๆ มาตั้งไว้ในห้องวงษ์สุวรรณ ห้องรับรองสำหรับคนไข้หรือญาติๆ นั่งรอรับจ่ายยา
ไม่ต้องอาศัยการวิเคราะห์อันล้ำลึก
แค่คนธรรมดาก็ดูออก จากหลักฐานต่างๆ รวมถึงการเลือกวัน เวลา และ สถานที่ก่อเหตุ ทุกอย่างวนเวียนล้อมรอบอยู่กับสัญลักษณ์เกี่ยวโยงกับคสช.ทั้งสิ้น
ทำให้ตีความได้ว่า คสช.และรัฐบาลทหารกำลังเผชิญกับการท้าทายอำนาจ ครั้งใหญ่
ส่วนจะเป็นสัญญาณท้าทายส่งตรงจาก”ฝ่ายตรงข้ามภายนอก” หรือเป็นการท้าทายจาก”ฝ่ายตรงข้ามภายใน”พวกเดียวกันเอง เหมือนที่มีแกนนำคสช.กล่าวไว้ตอนเหตุระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ
เป็นเรื่องที่คสช.ต้องเร่งหาคำตอบให้ได้โดยด่วน