คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

มันฯมือเสือ

ทบทวน 4 คำถามท่านผู้นำ

1.คิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ 2.หากไม่ได้จะทำอย่างไร

3.การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียวไม่คำนึงถึงเรื่องอนาคตของประเทศและเรื่องอื่นๆ เช่น ประเทศชาติจะมียุทธศาสตร์และการปฏิรูปหรือไม่นั้น ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง

4.คิดว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีพฤติ กรรมไม่เหมาะสมในทุกกรณี ควรมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้อีกแล้วจะให้ใครแก้ไขและแก้ไขด้วยวิธีอะไร

ล่าสุดมหาดไทยจัดทำแบบสอบถามทั้ง 4 ข้อเสร็จแล้ว ดีเดย์เปิดให้ประชาชนเดินทางมาส่งคำตอบได้ตั้งแต่ 12 มิ.ย. ตามสถานที่ดังนี้

ศูนย์ดำรงธรรมส่วนกลาง กระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สำนักงานเขต 50 เขตของกทม. และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล

แต่สิ่งที่น่าตะขิดตะขวงใจ

คือการบังคับให้ผู้แสดงความเห็นต้องระบุชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ อายุ เพศ อาชีพ การศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ รวมถึงต้องลงชื่อกำกับท้ายแบบสอบถาม

อะไรจะปานนั้น ขนาดการลงประชามติหรือเลือกตั้งทั่วไป ยังไม่ต้องให้ระบุรายละเอียดตัวตนลงลึกขนาดนี้

เพราะจะมีผลกดดันต่อคำตอบที่กรอกลงไป

ทำให้รัฐบาลได้รับคำตอบแค่ด้านเดียว คือคำตอบที่ตรงใจท่านผู้นำ

ส่วนคนที่คิดเห็นต่างก็คงเอาเวลาไปทำมาหากิน นอนเก็บตัวอยู่บ้าน

ไม่ต้องไปแสดงให้ใครรู้ว่าอยู่ฝ่ายคิดตรงข้ามกับรัฐบาล

สรุป งานนี้รัฐบาลไม่มีทางได้รับรู้ความคิดเห็นประชาชนอย่างแท้จริง เหนื่อยฟรี เอาไปใช้ประโยชน์อะไร ไม่ได้

ยกเว้นเอาไปใช้สร้างความชอบธรรมอย่างอื่น เช่น เลื่อนเลือกตั้ง

อันนั้นก็เป็นอีกเรื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน