คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
ข่าวใหญ่ช่วงสัปดาห์นี้ไม่พ้นข่าว “เปรี้ยว” หั่นศพ “แอ๋ม” ที่คนติดตามข่าวนี้อ่านตามดูข่าวกันตลอด ปกติข่าวฆ่าหั่นศพมักเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่แล้ว
แต่คราวนี้คนวางแผนฆ่าหั่นศพเป็นสาววัย 22 ปี รวมหัวกับเพื่อนสาวอีก 3 เพื่อนชายอีก 1 ลงมือฆ่าชำแหละศพคู่อริอย่างเหี้ยมโหด แถมพบประวัติ ของ “เปรี้ยว” ชื่นชอบความรุนแรงแบบไม่ปกติ
คลั่งไคล้ “ชัคกี้” ตุ๊กตาผีฆ่าหั่นศพในหนังสยองขวัญเรื่องนี้
ยิ่งทำให้คนเฝ้าติดตามข่าวนี้แบบเกาะติด
กระทั่งสุดท้าย “เปรี้ยว” และเพื่อนสาวทีมหั่นโผล่มอบตัวกับตำรวจพม่า ก่อนส่งมอบให้ตำรวจไทย นำตัวกลับมาดำเนินคดี ซึ่งช่วงนั้นมีการเผยแพร่คลิปและภาพที่เห็นว่า “เปรี้ยว” และทีมหั่นไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยังคงเดินตลาดเลือกซื้อเสื้อผ้าก่อนมอบตัว
ประกอบกับช่วงที่ “เปรี้ยว” และเพื่อนๆ โดนควบคุมตัว ก็มีภาพ “เปรี้ยว” มาสก์หน้าก่อนนอน นั่งแต่งหน้าแต่งตาก่อนออกสื่อ ก็เลยเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของทีมฆาตกรกลุ่มนี้
และมีคนบางกลุ่มโดยเฉพาะดารานักแสดงพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแชร์ภาพ “เปรี้ยว” แบบรัวๆ ราวกับเป็นเน็ตไอดอล
ความจริงแล้วการโพสต์ภาพแชร์ภาพ “เปรี้ยว” คงไม่มีใครไปชื่นชม หรือยกให้เป็นเน็ตไอดอล เชื่อว่าคนแชร์คงต้องการให้เห็นถึงความไม่ปกติของคนที่เป็นฆาตกรฆ่าหั่นศพ แม้โดนจับโดนดำเนินคดีแล้ว แต่ยังทำตัวปกติ ขาดความรู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี
คนที่เห็นภาพพฤติกรรมไม่ปกติของ “เปรี้ยว” ก็เข้าใจได้ และคงไม่มีใครไปเชิดชูผู้ต้องหาในคดีสะเทือนขวัญแบบนี้
จึงน่าแปลกใจที่มีคนกลุ่มหนึ่งที่หงุดหงิดกับข่าวเปรี้ยวหั่นศพ โหมกระแสจนเป็นเรื่องใหญ่ แต่กลับเมินเฉยกับคดีสำคัญในอดีต เรื่องคนสั่งสไนเปอร์ยิงประชาชนกลางกรุง
ล่วงเลยมา 6-7 ปีแล้วยังเงียบเป็นเป่าสาก