คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
นับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้เกิดความกระจ่าง
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าภายในงานเลี้ยงของกลุ่ม 50 ส.ส. ภายในโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอทเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จนทำให้งานเลี้ยงดังกล่าวต้องยกเลิกโดยปริยาย
โดยสิ่งที่ถูกตั้งคำถามไม่ใช่แค่การเข้าไปล้มงานเลี้ยง
เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าในภาวะรัฐบาลทหาร ย่อมมีความหวั่นไหวในความเคลื่อน ไหวต่างๆ
ยิ่งคนที่เคลื่อนไหวรวมกลุ่มเป็นอดีตส.ส. ที่มีฐานเสียง ได้รับคะแนนนิยมจากชาวบ้านจำนวนมาก
ยิ่งต้องหวั่นไหว
แต่สิ่งที่ต้องชี้แจงคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าได้รับรายงานว่ามีวัตถุระเบิดอยู่ในห้องจัดเลี้ยง
จนต้องกันพื้นที่ เอาคนออกให้หมด สุดท้ายก็ไม่พบอะไร
จึงกลายเป็นคำถามว่า วัตถุต้องสงสัยที่อ้างถึงนั้นได้ข้อมูลมาจากที่ไหน และเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด
เพราะเมื่อกล่าวถึงเรื่องระเบิด ในภาวะที่บ้านเมืองไม่ค่อยมั่นคง มีระเบิดป่วนกรุงหลายครั้ง มีระเบิดที่โรงพยาบาล หนำซ้ำยังเป็นโรงพยาบาลทหาร
แถมอยู่ในช่วงที่จ่าทหารอากาศขนอาวุธสงครามตามแนวชายแดน ทหารบกกลุ่มหนึ่งขโมยอาวุธจากคลังแสง ส่งพัสดุขายทั่วประเทศ
ยิ่งตอกย้ำสภาพความน่าหวาดกลัวให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังผลกระทบต่อเอกชน หากข่าวนี้ออกไปโดยไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ แล้วเกิดลูกค้าของโรงแรมเข้าใจจริงๆ ว่า โรงแรมเหล่านี้คือเป้าหมายการวางระเบิด ทำให้ตัดสินใจไม่ไปใช้บริการ
เจ๊งเอาได้ง่ายๆ เลยเชียว!!?
หนำซ้ำ หากเป็นข้อมูลจริง ก็ต้องตั้งคำถามว่าระเบียบวิธีปฏิบัติ ด้วยการย้ายคนเพียงห้องเดียว เหมาะสมถูกต้องมากน้อยเพียงใด
จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งตำรวจ ทหาร หน่วยข่าวกรอง ต้องออกมาให้ข้อมูลชัดเจนว่าข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร
มีข่าวน่าเชื่อเป็นระเบิดจริงๆ หรือแค่อยากให้ยกเลิกงานเลี้ยง
ก็บอกมาให้ชัด เหมือนคนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่เขาทำกัน
ไม่งั้นคนไม่รู้ ก็อาจจะกระทบความน่าเชื่อถือ คล้ายนิทานอีสปเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ
จะเสียหายกันไปหลายองค์กร