คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
กรณีนักเรียนชาย ชั้น ม.5 กระโดดตึกอาคารเรียนชั้น 4 ฆ่าตัวตายที่ระยองเมื่อวันก่อน เป็นกรณีที่สังคมควรให้ความสำคัญ หาทางแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก
ตามข่าวระบุว่าเด็กชายคนนี้เกิดความอับอาย เพราะโดนจับได้ว่าขโมยเงินเพื่อน 2 พันบาท จึงตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
โดดตึกปลิดชีวิตตัวเอง
เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เมื่อพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตออกมาตำหนิครูและโรงเรียนว่ามีการเอาเรื่องของลูกชายไปประจานที่หน้าเสาธง ซึ่งทั้งคู่เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกชายอับอายจึงก่อเหตุสลดใจขึ้นในที่สุด
ขณะที่ผอ.โรงเรียนก็พยายามยืนยันว่า ไม่มีการนำตัวเด็กชายไปยืนประจานต่อหน้าเพื่อน แต่มีการประกาศทำนองว่ามีนักเรียนคนหนึ่งขโมยเงินเพื่อน ขอให้มาพบอาจารย์ฝ่ายปกครอง ไม่เช่นนั้นจะแจ้งตำรวจจับ
ย้ำด้วยว่าไม่มีการประกาศชื่อเด็ก ไม่มีการเอาตัวมาประจาน
เพียงแค่ต้องการให้เด็กที่ทำผิดมาพบเพื่ออบรมสั่งสอน ไม่ให้ทำเรื่องแบบนั้นอีก
แต่ฝ่ายผู้ปกครองของเด็กกลับเห็นต่างกัน บอกว่า หากครูไม่ประกาศหน้าเสาธง ลูกก็คงไม่เครียด ไม่อับอายถึงขั้นฆ่าตัวตาย อีกทั้งการที่ครูไม่พูดชื่อออกมาตรงๆ แต่กลับบอกรูปพรรณสัณฐานแบบไหน พลั้งปากบอกไปด้วยว่า ตัวอ้วน ตัวดำ นุ่งกางเกงฟิต เรียน รด.ปี 2
ฟังกันก็คงพอเดาได้ว่าเป็นใคร
เรื่องนี้ส่วนใหญ่เห็นว่าครูลงโทษนักเรียนที่ขโมยเงินเพื่อนนั้นทำถูกแล้ว แต่ไม่ควรประจาน เพราะเด็กจะอับอาย และอาจทำให้เด็กรู้สึกว่าอยู่ในสังคมต่อไปไม่ได้ สุดท้ายเลยเถิดด้วยการฆ่าตัวตายหนีปัญหา
ฉะนั้น เห็นว่าครูควรทำความเข้าใจกับเด็กให้รู้ว่าสิ่งไหนถูก-ผิด หรือลงโทษให้เข็ดหลาบก็ทำได้ แต่ต้องไม่ประจาน
มิเช่นนั้นอาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมแบบนี้อีก