คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

มันฯ มือเสือ

บานปลายเป็นศึก “สามเส้า” ระหว่าง สนช. กรธ. และ กกต.

ระเบิดวิวาทะใส่กันมาตั้งแต่เรื่อง “เซ็ตซีโร่” กกต. มาจนถึง “ไพรมารี่โหวต”

สะท้อนถึงความพยายามของ “คนกลุ่มหนึ่ง” ตั้งหน้าตั้งตาจะจำกัดอำนาจพรรค การเมือง

โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงในทางปฏิบัติว่าทำได้หรือไม่ได้ หรือปฏิบัติแล้วจะเกิดปัญหาอื่นตามมา หรือไม่

จนเกิด “ผิดคิว” กันเอง

ระบบเลือกตั้งแบบใหม่ที่เรียกว่า “จัดสรรปันส่วนผสม” ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีเป้าหมายต้องการ “สกัดจุด” พรรคใหญ่โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย

ไม่ให้มีเสียงในสภามากเกินไป

โดยอ้างว่าเพื่อเปิดให้พรรคเล็กและพรรคใหม่ มีโอกาส “แจ้งเกิด” ไม่ใช่ “ผูกขาด” อยู่แต่กับพรรคใหญ่หรือพรรคเก่าแก่

จวบจนสนช.ผ่านร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองวาระ 3 เพิ่มเติมเรื่อง “ไพรมารี่โหวต”

พรรคเล็กก็ส่งเสียงคัดค้านกันระงม

เนื่องจากระบบคัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้งส.ส.ที่สนช.ออกแบบมา

ทำให้พรรคเล็ก “เสียเปรียบ” เต็มๆ

ยังไม่ทันได้ “แจ้งเกิด” ก็โดนจับ “ทำหมัน” ก่อนแล้ว

อย่างไรก็ดีทั้งเรื่อง “เซ็ตซีโร่” กกต. และ “ไพรมารี่โหวต” ยังต้องไปหาข้อสรุปกันอีกทีในชั้นกรรมาธิการร่วมสนช. กับ กรธ.

สุดท้ายอาจต้องชี้ขาดในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ

แค่ร่างกฎหมายลูกว่าด้วยกกต. และว่าด้วยพรรคเมือง 2 ฉบับ ก็วุ่นวายขนาดนี้

ยังเหลือร่างกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับสำคัญกับการเลือกตั้ง คือ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และว่าด้วยที่มา ส.ว.ที่จ่อคิวเสนอสนช. ดูแล้วน่าจะวุ่นวายไม่แพ้กัน

ทุกอย่างดูเหมือนมี “มือลึกลับ” คอยชักใยเบื้องหลัง

ผูกเงื่อนวางกับดักทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิงเข้าไว้

อาจจะรอจังหวะพรรคการเมืองหมดความอดทน ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน เมื่อไหร่

ก็จะเข้าล็อก “ไม่สงบ ไม่เลือกตั้ง” ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน