คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
เป็นภาพข่าว ที่ได้เห็นกันทั่วไปแล้ว สำหรับภาพน.ส.เอื้องฟ้า แซ่ลิ้ว ลูกสาวลุงอะแกว เหยื่อสังหารแยกหลักสี่ ยืนหลั่งน้ำตาหน้าศาล หลังจากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยกฟ้องนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือที่รู้จักกันในนามมือปืนป๊อปคอร์น
พลิกจากคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ จำคุกตลอดชีวิต แต่ให้ลดโทษลงเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน เพราะจำเลยรับสารภาพ
โดยให้เหตุผลว่าแม้จะมีภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เทียบเคียงว่ามือปืนป๊อปคอร์นเป็นคนเดียวกับนายวิวัฒน์
แต่ขาดการนำสืบประจักษ์พยานที่ชี้ชัดว่าเป็นคนเดียวกัน แม้จะมีคำรับสารภาพจากจำเลย ก็ยังมีพิรุธ
จึงต้องยกประโยชน์ให้จำเลยด้วยการยกฟ้อง
แน่นอนว่าแม้น.ส.เอื้องฟ้า จะรู้สึกเช่นไร แต่ก็ต้องเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม
และหาช่องทางต่อสู้ทางคดีตามกระบวนการต่อไป
อย่างไรก็ตามกรณีนี้มีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557
โดยสืบเนื่องจากวันที่ 31 ม.ค. 2557 พุทธะอิสระ ระดมมวลชนยึดสำนักงานเขตหลักสี่ ไม่ให้ขนหีบเลือกตั้งที่จะใช้ ในวันที่ 2 ก.พ. 2557
ทำให้มวลชนย่านหลักสี่ รวมตัวกันเพื่อจะเอาหีบบัตรคืน
ขณะที่กำลังตั้งประจัน ก็มีกปปส.จากแยกลาดพร้าวมาสมทบ พร้อมด้วยกำลังติดอาวุธ
1 ในนั้นใช้ถุงป๊อปคอร์นคลุมปืนยาว กันปลอกกระสุนกระเด็น ไล่ยิงกันกลางถนน ดังที่มีคลิปและภาพนิ่งปรากฏอยู่ แพร่หลาย
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ ลุงอะแกว แซ่ลิ้ว อายุ 72 ปี ที่มาตามหาลูกที่ย่านหลักสี่ถูกกระสุนบาดเจ็บ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นมีศิลปินดาราแสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมา ด้วยการชื่นชมสนับสนุนมือปืนป๊อปคอร์น ฮิตถึงขั้นทำสินค้าออกมาจำหน่ายกัน
นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
นายวิวัฒน์ จะเป็นมือปืนป๊อปคอร์น ตัวจริงหรือไม่ คงต้องสู้ชั้นศาลฎีกา
แต่ที่แน่ๆ ลุงอะแกวตายจริง
และลูกสาวก็ยังต้องสู้เพื่อทวงความยุติธรรมต่อไป