คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
มันฯ มือเสือ
“อย่ามากังวลกับผมว่าจะอยู่ต่อหรือเปล่า หรือตั้งพรรคหรือเปล่า แต่จะทำวันนี้ให้ผ่านไปก่อน สถานการณ์จะเป็นตัวชี้ชัดต่อไปเองว่าเราควรจะทำอย่างไรในอนาคต”
สรุปเป็นการตีความแบบ ‘มโน’ กันไปเองของบรรดาคอการเมืองว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
เพื่อกลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างมีเกียรติและสง่างามตามระบอบประชาธิปไตย
แต่ปรากฏทั้งกองเชียร์ กองแช่ง ต่างต้อง ‘หงายเงิบ’ ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เพราะตามเงื่อนไขในบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 กำหนดให้สมาชิกแม่น้ำ 4 สาย ได้แก่ สนช. สปท. ครม.และคสช. หากต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.
จะต้องลาออกจากตำแหน่งภายในเวลา 90 วัน หลังรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศ ใช้บังคับเป็นทางการวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา
เท่ากับว่าเส้นตายคือวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งก็เลยมาแล้ว
จึงเป็นอันว่าโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จะเสี่ยงลงสนามเลือกตั้งนั้น
ปิดประตูตายไปได้เลย
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า หนทางที่พล.อ.ประยุทธ์จะกลับเข้ามา ‘เบิ้ล’เก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2
จะปิดล็อกตายไปด้วย
หนทางที่ว่า แถมยังชัวร์กว่า ก็คือการให้ส.ว. 250 คนที่คสช.ลากตั้ง เข้ามา บวกกับส.ส.อีกจำนวนหนึ่งจากพรรคเล็กที่มารวมตัวกัน โหวตลงมติ
หนุน ‘คนนอก’ เป็นนายกฯ
ตรงนี้ต่างหากคือหมากที่ตั้งใจวางไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่แรก ส่วนเรื่องอื่นเป็นแค่หมากกลลวง
ยิ่งนึกย้อนกลับยิ่งชัดเจน
ถามว่าหมากตานี้วางไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
คำตอบเป็นไปได้มากที่สุดคือ
น่าจะวางไว้ตั้งแต่มีการผลักดัน ‘คำถามพ่วง’ ต่อท้ายร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับผ่านประชามติ 7 สิงหาคม 2559 นั่นเอง