ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
แม้จะใช้เวลาอีกร่วมเดือน ถึงจะถึงวันชี้ชะตา 25 สิงหาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิพากษาความผิดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีจำนำข้าว ที่ระบุความผิด ว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการ
แต่บรรดาคอการเมืองก็ติดตามเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ
เพราะยังคงมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีอยู่ตลอดเวลา เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้เป็นระยะๆ
อาทิ กรณีที่กระทรวงการคลังส่งรายละเอียดสมุดบัญชีเงินฝากของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ 12 บัญชี ให้กับกรมบังคับคดี เพื่อเตรียมการยึดทรัพย์เพื่อชดใช้ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว
ที่ตีราคาไว้ถึง 3.5 หมื่นล้านบาท
สร้างความงุนงงว่าคดียังไม่ตัดสิน จะยึดทรัพย์กันแล้วหรืออย่างไร
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ต้องออกมาชี้แจงว่าขั้นตอนทั้งหมดเป็นเพียงการเตรียมการในระดับเจ้าหน้าที่เท่านั้น
ยังไม่มีการยึดทรัพย์ใครทั้งนั้น!!!
แต่ยังไม่ทันข้ามวัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ใช้ช่องทางทวิตเตอร์ชี้แจงเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ว่าไม่ใช่แค่การเตรียมการ แต่ยึดและถอนเงินในบัญชีไปแล้ว
ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด
เมื่อข้อมูล 2 ฝ่ายไม่ตรงกัน ย่อมมีฝ่ายหนึ่งที่เป็นเท็จ ส่วนจะเป็นฝ่ายไหน รอสักพักความจริงย่อมต้องคลี่คลาย
อย่างไรก็ตามประเด็นทางการเมืองเรื่องโครงการจำนำข้าว ก็มีความน่าสนใจอยู่อีกหลายด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินนโยบายตามที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาประชาคม
และแน่นอนเมื่อจำนำข้าวในราคาตันละ 1.5 หมื่นบาท ในขณะที่ราคาตลาดไม่ถึง ย่อมมีส่วนต่างที่เป็นภาระรับผิดชอบของรัฐบาล
แล้วมันแตกต่างอะไรกับการประกันราคาพืชผลเกษตรตัวอื่นๆ หรือการใช้ เงินเยียวยาชดเชย
หากถือว่าเป็นการทำให้รัฐเสียหาย ย่อมมีอีกหลายคดี หลายนโยบาย หลายรัฐบาล ที่จ่อถูกฟ้องคดีขึ้นศาลและยึดทรัพย์
ก็ได้แต่คอยติดตามผลทางการเมืองของเรื่องข้าว
จะเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อะไรหรือไม่