ให้มันจบที่รุ่นเรา
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…รุก กลางกระดาน
ให้มันจบที่รุ่นเรา – คงต้องหวั่นไหวมากจริงๆ สำหรับท่าทีของรัฐบาล และกลุ่มอนุรักษนิยมที่มีต่อม็อบเยาวชนปลดแอก ที่ยกระดับเป็นกลุ่มประชาชนปลดแอก พร้อมประกาศทวงคืนอนาคตกลับมา
ที่พยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ดูเหมือนจะใช้ไม้นวม ให้สัมภาษณ์พร้อมรับฟังความเห็นเยาวชน ประชาชน โดยให้สภาพัฒน์เป็นเจ้าภาพจัดรับฟังความเห็น
เช่นเดียวกับท่าทีของกมธ.ศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญ ที่เสนอให้เปิดทางตั้งส.ส.ร.เพื่อดูเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งระบบ
ตลอดจนเล่นบทดุดัน อย่างพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่ออกมาผลิตซ้ำวาทกรรม ‘ชังชาติ’
แต่ก็ถูกสังคมรุมประณาม พร้อมตั้งคำจำกัดความว่า ‘ชาติ’ หมายถึง ‘ประชาชน’ ไม่ใช่รัฐบาลหรือฝ่ายบริหาร
จนต้องให้คนใกล้ตัวออกมาแก้เกี้ยวตามประสาลูกผู้ชายตัวจริงว่าไม่ได้หมายถึงใคร คนที่มีปฏิกิริยานี่ ‘ร้อนตัว’ ไปกันเอง
บรรยากาศเริ่มจะดีๆ จู่ๆ ตำรวจก็ถือหมายจับแสดงตนจับกุมนายอานนท์ นำภา ทนายความ และนายภาณุพงศ์ จาดนอก กลุ่มเยาวชนภาคตะวันออก ที่เคยชูป้ายไล่บิ๊กตู่
ตั้ง 7 ข้อหาหนัก คุมตัวส่งฝากขังศาลอาญาเพื่อขออำนาจฝากขังทันที!??
อย่าบอกว่าเรื่องนี้นายกฯ ไม่รู้เรื่อง และเป็นการกระทำของฝ่ายตำรวจเองทั้งหมด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ก็แสดงว่า คำพูดของนายกฯ ที่พูดไว้เปรียบเสมือนนโยบาย เปรียบเสมือนสัญญาประชาคม ไม่มีค่าอะไรให้เจ้าหน้าที่ต้องรับฟัง หรือปฏิบัติตาม
และหวังว่าตัวนายกฯ เองจะแสดงภาวะผู้นำ ชี้แจงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไรกันแน่!??
อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้ยิ่งชี้ให้เห็นว่าข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ โดยเฉพาะเรื่องการคุกคามประชาชน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
และสุดท้ายถ้าคิดจะเปิดหน้าชนกันเช่นนี้จริงๆ ก็เลิกเสียทีกระบวนการซื้อเวลารับฟังความคิดเห็นต่างๆ นานา ที่ดูจะไร้ประโยชน์
เพราะประชาชนที่เขาออกมาก็บอกแล้วว่าพร้อมที่จะให้เรื่องนี้จบที่รุ่นเรา!!
ย้ำกันให้ชัดว่าจบแน่ แต่จะจบแบบไหนเท่านั้นเอง