โลกของข่าวสาร – เฟซบุ๊กสื่อสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด และมีผู้ใช้นับพันล้านบัญชี ตัดสินใจปิดกั้นการเข้าถึงกลุ่มบนเฟซบุ๊ก ที่มีจำนวนสมาชิกกว่า 1 ล้านคน ตามคำขอของรัฐบาลไทยที่ระบุว่าเนื้อหาในกลุ่มดังกล่าวนั้นผิดกฎหมาย
เฟซบุ๊กระบุด้วยว่า ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลไทยในการปิดกั้นข้อความบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับการเมืองในประเทศไทย โดยขู่ว่าจะดำเนินคดีอาญากับตัวแทนของเฟซบุ๊กในประเทศไทย
โฆษกเฟซบุ๊กระบุด้วยว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายเกี่ยวกับคำขอดังกล่าว โดยระบุว่า คำขอของรัฐบาลไทย เป็นการแทรกแซงกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล และมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของการแสดงออกของประชาชน
ซึ่งคงจะต้องจับตาดูกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดแถลงข่าวการระงับการแพร่หลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ว่ากระทรวงเตรียมส่งหนังสือแจ้งเตือนการติดตามการปิดกั้นตามคำสั่งศาล ไปยังสื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ เพื่อระงับการแพร่หลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ผิดกฎหมายอีก 1,024 ยูอาร์แอล
โดยแจ้งเตือนการติดตามการปิดกั้นตามคำสั่งศาลอีก จำนวน 1,024 รายการ แบ่งเป็น เฟซบุ๊กจำนวน 661 รายการ, ยูทูบ 289 รายการ, ทวิตเตอร์ 69 รายการ และเว็บอื่นๆ อีกจำนวน 5 รายการ
นายพุทธิพงษ์ระบุด้วยว่าเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและผู้ให้บริการบนแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ และคำขอได้ มีคำสั่งศาลแนบไปด้วย เพื่อขอให้ช่วยลบและนำข้อความออกเป็นจำนวน 1,276 ยูอาร์แอล
จากการติดตามความคืบหน้าเมื่อครบกำหนด 15 วัน เมื่อวันที่ 25 ส.ค. พบว่าทุกรายรวมถึงเฟซบุ๊ก ยูทูบ และติ๊กต็อก ให้ความร่วมมือดำเนินการลบยูอาร์แอลผิดกฎหมายตามคำสั่งศาลครบทั้ง 100%
ในจำนวนนี้เป็นรายการที่อยู่บน เฟซบุ๊ก จำนวน 1,129 ยูอาร์แอล
เป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมา กระทรวง ดิจิทัลฯ เลือกดำเนินการ เล่นงาน เฉพาะความเห็นและผู้ที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลว่าเป็นข่าวเท็จ เฟกนิวส์ อย่างเอาจริงเอาจัง
ขณะที่ข่าวปล่อยที่เอาใจรัฐบาล หรือเฟกนิวส์ที่รัฐบาลได้ประโยชน์ กลับไม่ถูกดำเนินการอย่างใด
โดยเฉพาะไอโอต่างๆ ทั้งในส่วนของกองทัพ หรือข่าวเฟกนิวส์ปั่นกระแสของสื่อที่เอียงข้าง เป็นกระบอกเสียงสนับสนุนรัฐบาล
ทั้งๆ ที่ปล่อยเรื่องเท็จ สร้างความสับสนเช่นกัน
