คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
หลังกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมประสบความสำเร็จจากกิจกรรม “19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร”
ปักหมุดลงใจกลางสนามหลวง พร้อมยื่นหนังสือผ่านไปถึงประธานองคมนตรี
สถานีต่อไปเป็นกลุ่มประชาชนปลดแอกรับไม้ต่อ นัดหมายชุมนุมหน้ารัฐสภาวันที่ 24 ก.ย.คือวันนี้
เป้าหมายกดดันเรื่องให้มีรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ประเด็นข้อเรียกร้องหลักในการเคลื่อนไหว
24 ก.ย.จึงเป็นตัวกำหนดสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้
จะบรรเทาเบาบาง หรือยิ่งร้อนแรง
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลลัพธ์การประชุมรัฐสภาพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 6 ญัตติ
ที่เริ่มต้นวันที่ 23 ก.ย. สิ้นสุดวันนี้
วิป 3 ฝ่าย รัฐบาล ฝ่ายค้านและวุฒิสภา ตกลงกรอบเวลาวันแรกเริ่มประชุม 09.30 น. เลิก 01.30 น.
รูปแบบการประชุมจะเป็นการพิจารณารวม 6 ญัตติพร้อมกัน
วันที่ 24 ก.ย. ต้องยุติการอภิปรายเวลา 18.00 น. เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการลงมติโดยการขานชื่อรายบุคคล แต่ละคนจะขาน ทีเดียวว่ารับหรือไม่รับญัตติทั้ง 6 ฉบับ คาดว่ากินเวลานาน 3-4 ชั่วโมง
โดยกระบวนการทั้งหมดต้องจบก่อนเที่ยงคืน ไม่ให้เลยไปถึง 25 ก.ย.ซึ่งเป็นวันปิดสมัยประชุม
ในส่วนของส.ส.ไม่น่ามีปัญหา
ซีกรัฐบาลและฝ่ายค้านแม้เห็นต่าง ในบางประเด็นแต่ก็เห็นตรงกันในหลักการ ว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจำเป็นต้องได้รับ การแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพื่อปลดล็อกนำพาประเทศออกจากห้วงวิกฤตการเมืองซ้ำซาก
ปัญหาคือการผ่านด่านแรกจำเป็นต้องใช้เสียงส.ว. 1 ใน 3 หรือ 84 เสียงจากทั้งหมด 250 คน
ตรงนี้จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย
ยากเพราะ 1 ในญัตติฝ่ายค้านมีเรื่องของการตัดอำนาจส.ว.โหวตตั้งนายกรัฐมนตรีด้วย
ที่ว่าง่าย เพียงแค่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อดีตหัวหน้าคสช. ผู้ให้กำเนิดส.ว.ชุดนี้ ส่งสัญญาณไฟเขียว เชื่อว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี
ม็อบเยาวชนนักศึกษาเสนอมา 3 ข้อเรียกร้อง หากรัฐบาลไม่เอาเลยสักข้อ ก็กระไรอยู่
ใน 3 ข้อ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐบาลทำได้ง่ายสุด
ทำแล้วยังช่วยลดแรงเสียดทาน ช่วยให้ กระแสข้อเรียกร้องอื่นเบาลง
คงไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไร
มันฯ มือเสือ