อายแทน
: คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย รุก กลางกระดาน

 

อายแทน : คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย รุก กลางกระดาน – ต้องยอมรับว่าเกิดความรู้สึกทุกครั้งที่เขียนถึงการควบคุมการระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดยความรู้สึกดังกล่าวก็คือความอับอาย ที่ต้องตอกย้ำซ้ำทวนเรื่องเดิมๆ โดยไม่พบการพัฒนาใดๆ ให้ได้เห็นเป็นรูปธรรม

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการที่ออกมาจำกัดสิทธิของประชาชนเพื่อป้องกันการระบาด ที่เปรียบเสมือนไม้หลักปักขี้เลน ที่โย้ไปเย้มาได้ตลอด

วันนึงจะบอกให้ท้องถิ่นพิจารณามาตรการเอง พอกทม.ออกมาตรการมา ก็ไม่พอใจล้วงลูกปรับเปลี่ยน

จู่ๆ อยากจะขู่ให้ทุกคนต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นหมอชนะ ก็พูดโดยไม่ได้คำนึงถึงการเข้าถึงทรัพยากรของคนส่วนใหญ่ในประเทศ

พอถูกด่า ถูกตำหนิ ก็พลิกกลับทันใด ระบุไม่มีความผิด แถมยังโยน ให้สื่อ โยนให้คนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างความสับสนให้สังคม

การสร้างภาระให้ประชาชนด้วยการจำกัดการเดินทาง อย่าง 5 จังหวัดที่ไม่ล็อกดาวน์ แต่ควบคุมเข้มงวด ต้องไปแออัดยัดเยียดขอใบอนุญาตเดินทาง

บางทีให้มาขอกันวันต่อวัน ก่อนจะปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่สิ่งที่ควรจะรีบออกมา ซึ่งก็คือการเยียวยาดูแลประชาชน คนตัวเล็ก ตัวน้อยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐให้ใช้ชีวิตรอดในภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้

กลับนิ่งเงียบ หายไปกับสายลม!??

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแสดงให้เห็นถึงปัญหาและศักยภาพในการบริหารงานที่มีขีดจำกัด

และหากทบทวนให้ดี ก็ต้องรู้ว่าการระบาดครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก รัฐบาล มีเวลากว่า 1 ปีที่จะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

แต่กลับใช้เวลาไปกับเรื่องการเมือง ไล่จับคนเห็นต่าง แจ้งข้อหาม็อบนักศึกษากันอย่างเต็มที่

พอเป็นเรื่องบ้านเมืองที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถกลับไปกันไม่เป็น

นอกจากนี้ต้นเหตุของการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งก็คือขบวนการค้ามนุษย์และบ่อนการพนัน ก็มีเพียงการย้ายนายตำรวจออกจากตำแหน่ง

ไม่มีนายหน้าค้ามนุษย์ ไม่มีนายบ่อนคนไหนถูกจับกุมดำเนินคดี มีแต่ผู้ดูแลเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะเอาความได้เท่านั้น

ก็ต้องย้ำคำเดิมจริงๆ ว่าหมดหวังกับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และหากยังไม่มีความละอายใดๆ ก็ขออนุญาตที่จะอับอายแทนแล้วกัน

โดย รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน