คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ผนงรจตกม. – ความหวังทุกอย่างพังทลายลงไปทันที หลังจากที่รับฟัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม แถลงมาตรการยกระดับควบคุมโรคระบาดโควิด-19 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หลังนัดประชุม ‘ด่วน’ หลังหยุดยาวสงกรานต์ 6 วัน ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงระดับ 1,500 คนต่อวัน
โดยก่อนการแถลง สังคมก็ตั้งใจที่จะรับฟังว่าจะมีมาตรการพลิกฟื้นวิกฤตที่เกิดขึ้น สถานีโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ดึงสัญญาณถ่ายทอด ส่งตรงข้อความของผู้นำประเทศไปยังประชาชนแบบสดๆ เรียลไทม์
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะได้ฟังมาตรการควบคุม การป้องกันรักษา การหาแนวทางการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม
กลับได้ยินสิ่งที่เหมือนการพร่ำบ่น โทษนั่นโทษนี่ โทษความไม่รับผิดชอบ โทษกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาไล่รัฐบาล แขวะไปถึงส.ส.ฝ่ายค้านที่มาฉีดวัคซีน
แต่ไม่พูดถึงเลยการระบาดระลอก 3 ที่เกิดจากการย่อหย่อนมาตรการควบคุมโรคในสถานบันเทิง
ประกาศสารพัดกฎหมาย อำนาจเต็มมือ ตำรวจ-ทหาร เอาออกมาใช้ได้หมด แต่สุดท้ายกลับไร้น้ำยา
พร่ำบอกรักทุกคน ทั้งที่จริงๆ ไม่มีใครสนใจว่าใครจะรักใคร แต่เขาสงสัยว่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้อย่างไรมากกว่า
สอนประชาชนให้ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ใช้ช้อนกลางกินกับครอบครัว พูดในเรื่องมาตรการป้องกันเดิมๆ เหมือนเมื่อครั้งระบาดรอบแรกเมื่อต้นปี 2563
ผ่านมา 1 ปี ไม่ได้เรียนรู้อะไรขึ้นมาเลยหรืออย่างไร!??
แผนการจัดฉีดวัคซีน ที่เป็นทางรอดเพียงทางเดียว ก็ยังไม่ชัดเจน ที่มีในไทยกว่า 2 ล้านโดส ก็ฉีดได้แค่ 5 แสน จะล่าช้ากันไปถึงไหน
ที่ว่าจะไปติดต่อซื้อวัคซีนจากรัสเซีย อเมริกา ก็ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม
มีเพียงอย่างเดียวที่พูดถูกก็คือประชาชน “ต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม ไร้สาระ ไม่เป็นประโยชน์ บิดเบือน”
แต่สุดท้ายก็ต้องจำทนกับเรื่องราวพรรค์นี้กันต่อไปเรื่อย!??
ผ่านประสบการณ์ทั้งหมดแล้วก็อดคิดถึงคำพูดอมตะเมื่อครั้งน้ำท่วมปี 54 ที่มีคนนำมาย่อไว้อย่างงดงาม ‘ผนงรจตกม.’
ไม่เคยมีอารมณ์ร่วมกับคำพูดดังกล่าวเท่ากับตอนนี้เลยจริงๆ!!
รุก กลางกระดาน