“มันฯ มือเสือ”
ในแวดวงคอการเมือง ตั้งข้อสังเกตท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐบาล คสช. ในระยะหลัง เริ่มแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง
จากชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
เมื่อก่อนเห็นด้วยทุกเรื่อง แต่เดี๋ยวนี้คัดค้านทุกเรื่อง
ตั้งแต่ระดับหัวแถว ไปจนถึงปลายแถว ต่างก็กล่าววิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐบาลทหาร ไม่ว่าเรื่องยื้อปลดล็อก เรื่องปรับครม. เรื่อง 6 คำถามสืบทอดการเมือง เรื่องราคายาง การแก้ปัญหาปากท้อง ฯลฯ
ด้วยท่าทีและถ้อยคำรุนแรง มากกว่าพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำไป
อะไรคือสาเหตุของการ “เปลี่ยนไป” มีการวิเคราะห์ไว้หลายแง่มุม เช่น พรรคประชาธิปัตย์อาจจับสัญญาณได้ว่ารัฐบาลทหารที่ตัวเองเคยสนับสนุนเชิดชู
กำลังเข้าสู่ช่วง “ขาลง” เต็มรูปแบบ
เห็นได้จากผลสำรวจซูเปอร์โพลพบว่า ฐานสนับสนุน “ท่านผู้นำ” ลดลงจาก ร้อยละ 78.4 เมื่อเดือนกรกฎาคม มาอยู่ที่ 52.0 ในการสำรวจต้นเดือนพฤศจิกายน
ประกอบกับการที่พรรคประชาธิปัตย์อาจรู้ซึ้งแล้วว่า เมื่อการเลือกตั้งใกล้มาถึง การสนับสนุนแนวทางอำนาจนิยม หรือการเมืองที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
จะไม่เป็นที่ต้อนรับของประชาชน
อีกทั้งสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ 6 คำถาม ถึงไม่ชัดเจน แต่ก็เผยให้เห็นแนวโน้มว่าคสช.อาจหันไปสนับสนุนพรรคการเมืองตั้งขึ้นใหม่ มากกว่าสนับสนุนพรรค การเมืองที่มีอยู่เดิม
เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคประชาธิปัตย์จึงรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองลงทุนทำมาทั้งหมดตลอดหลายปี
ไม่ว่าการโดดลงไปเล่นการเมืองบนถนน ร่วมกับม็อบนกหวีดขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ล้มเลือกตั้ง เปิดประตูให้ทหารเข้ามาทำปฏิวัติ
ต้องกลายเป็น “ขาดทุน” ป่นปี้ไปในที่สุด
จึงมีแต่การหันหลังกลับเข้าสู่การเมืองด้วยแนวทางประชาธิปไตยเท่านั้น ที่เป็นทางที่ถูกต้องของพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนจะกลับมาได้ทันหรือไม่
จะเป็นเรื่องน่าลุ้นระทึกอย่างยิ่ง เมื่อเวลาของเสียงสวรรค์มาถึง