“รุก กลางกระดาน”
เข้าสู่บรรยากาศการเมืองเข้มข้น อีกครั้ง
เมื่อสังคมออกมาจับตาคำสัญญาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ที่ระบุจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพ.ย.2561 หรือ 1 ปีต่อจากนี้นั่นเอง
ด้วยระยะเวลาที่ไม่นานนัก จึงไม่แปลกที่จะมีเสียงเรียกร้องจากทุกพรรค การเมืองให้พล.อ.ประยุทธ์ ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้เสียที
เพราะตามเงื่อนเวลา ก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่แต่ละพรรคจะต้องเร่งทำกิจกรรม ทั้งสรรหาผู้สมัคร ประชุมวางแผนนโยบาย เพื่อเตรียมสื่อสารกับสังคม ให้ประชาชนได้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
จนแล้วจนรอด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่ตัดสินใจปลดล็อก แต่กลับตัดสินใจปรับครม.แทน
ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเมื่อจะจัดการเลือกตั้งอยู่แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าครม.ชุดนี้ก็นับถอยหลังไปเรื่อยๆ
แล้วจะมีความจำเป็นอะไรต้องปรับคนใหม่เข้ามาทำงานอีก?
ทำให้สังคมอดคิดไม่ได้ว่าจุดประสงค์การปรับครม.ก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี หาคนมาทำงานสร้างคะแนนนิยมจากประชาชน รองรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง
หวังจะกลับมาอีกรอบ
หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ยิ่งสงสัยว่าแล้วคนที่ทำงานมาตลอดนั้น ไม่เหมาะสมดีพอแล้วหรืออย่างไร
แล้วที่ผ่านมา ที่ปลาบปลื้มยินดีชื่นชมกับผลงานนั่นมันคืออะไร!??
แต่ก็เอาเถอะ เมื่อมีอำนาจที่จะดำเนินการก็ต้องยอมรับ เพียงแต่หวังว่าเมื่อจัดระบบอะไรในรัฐบาลคสช.เรียบร้อยแล้ว
ก็ควรจะปลดล็อกให้คนอื่นเขาได้ทำกิจกรรมบ้าง ประชาชนเขาจะได้เห็นการแข่งขันอย่างเท่าเทียม
เพราะที่จริง การทำงานต่อเนื่องมากกว่า 3 ปี แต่งตั้งข้าราชการมาตั้งหลายครั้ง แถมยังคุมกลไกอำนาจรัฐอย่างเหนียวแน่น
ก็ได้เปรียบคู่แข่งอยู่พะเรอเกวียน
เปิดโอกาสให้คนอื่นเขาบ้าง ถ้าได้มีโอกาสกลับมานั่งเก้าอี้อีก ก็จะสง่างาม ยิ่งขึ้น
ไม่โดนเขาครหาว่ามัดมือชกอยู่ ฝ่ายเดียว