คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

กล้าหาญหรือขี้ขลาด!?? – พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯ ไปแล้วอย่างไม่ได้ผิดความคาดหมายอะไร

เมื่อรัฐบาลยังสามารถรวมเสียงพรรคร่วม แม้การอภิปรายบางครั้งเหมือนจะดูรุนแรง แต่ก็ไม่มีผลในทางปฏิบัติ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจ ก็คือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่แสดงออกต่อส.ส.ฝ่ายค้าน

ระบุว่า ส.ส.โชคดีที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และบอกว่าถ้าไปพูดอย่างนี้ข้างนอกก็มีปัญหาเหมือนกัน และให้พวกชอบพูดข้างนอกระวังตัวเอาไว้

แสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจของพล.อ.ประยุทธ์ ถึงการทำหน้าที่ตรวจสอบของส.ส.ในสภา

และหากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่พอใจต่อคำพูดต่างๆ ก็ควรจะคิดถึงจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของรัฐบาลบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เผชิญกับโรคระบาด ขณะที่การเยียวยา แก้ไขปัญหาล่าช้าอย่างเห็นได้ชัด

กว่าที่วัคซีนจะได้มา ก็ต้องพร่ำบอก พร่ำเรียกร้องกันจนปากเปียกปากแฉะ และจนถึงปัจจุบันก็ไม่ได้เพียงพอกับจำนวนประชากร

พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมองข้อเท็จจริงตรงนี้ อย่ามัวแต่ไปฟังพวกลิ้นกระดาษทรายน้ำลายชะแล็ก

ที่สำคัญ ต้องเข้าใจด้วยว่าในขณะที่ตัวเองกุมอำนาจมายาวนาน 7 ปี มีอำนาจทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นค้ำจุนอุ้มชู อาการเกรี้ยวกราดเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ดูกล้าหาญหรือเข้มแข็งมากขึ้น

กลับกันส.ส.ฝ่ายค้าน ที่ต้องยืนเผชิญหน้ากับอำนาจเหล่านี้ โดยไม่หวั่นเกรง กลับดูจะกล้าหาญยิ่งกว่า

และหากส.ส.ที่ยังมีตำแหน่งแห่งหน มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ยังดูกล้าหาญแล้ว

ประชาชนที่ออกมายืนหยัดต่อสู้ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง ให้มีรัฐสวัสดิการ ดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ทั่วถึงและเท่าเทียม

ไม่หวั่นหวาดการคุกคามในทุกรูปแบบ อย่างที่แกนนำราษฎร ทั้ง รุ้ง-เพนกวิน-ไผ่ และประชาชนอีกมากมาย ได้พิสูจน์ให้เห็นไปแล้ว

ย่อมต้องกล้าหาญยิ่งกว่า และน่ายกย่องยิ่งกว่า

ซึ่งคนเหล่านี้ล้วนแต่จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

มากจนเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ได้อย่างแน่นอน!!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน