คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

สงสัยว่าใกล้ถึงขีดสุดแล้วจริงๆ สำหรับความอดทนของประชาชนต่อการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล

ที่แม้จะยกระดับมาตรการต่างๆ ทั้งปิดแคมป์คนงาน ห้ามร้านอาหารเปิดขาย

แต่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อไม่ลดลงผู้เสียชีวิตก็ไต่ระดับขึ้นมาเป็นวันละ 60 ราย ขณะที่พื้นที่กทม.ก็ติดเพิ่มอีกเป็นวันละกว่า 2 พันราย

กลายเป็นคำถามว่าแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการมานั้นถูกทางแล้วใช่ไหม

ไม่เพียงแค่นั้น ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนจากการติดเชื้อที่มากขึ้นทุกวัน และสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แทบจะอดตาย

ระบบสาธารณสุขที่เหนื่อยล้าจนแทบจะรับไม่ไหว ต้องเกณฑ์แพทย์จบใหม่มายันสถานการณ์ไว้ให้ได้นานที่สุด

ซึ่งก็ไม่รู้จะต้านทานได้นานขนาดไหน เพราะวัคซีนซิโนแวคที่ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ก็พิสูจน์ชัดด้วยข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ว่ามีประสิทธิภาพด้อยกว่าวัคซีนชนิดอื่นๆ ในโลกนี้

หนำซ้ำขณะที่ปัญหาประเดประดังเข้ามาใส่ กลับไม่ได้รับรู้ถึงความจริงใจที่จะพยายามที่จะแก้ปัญหาของรัฐบาลเลยแม้แต่นิดเดียว

ทั้งจากปรากฏการณ์ ‘นะจ๊ะ’ หรือการนั่งชิลริมทะเล ที่แทบจะไม่มีมาตรการเว้นระยะห่าง หรือการยกการ์ดสูง เหมือนที่พร่ำสอนประชาชนเอาไว้

ยิ่งทำให้ความรู้สึกว่ามีรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ก็คงไม่ต่างกัน

และยิ่งเดือดเข้าไปใหญ่ เมื่อทางรอดทางเดียวของวิกฤตโควิดที่เราเผชิญ ซึ่งก็คือวัคซีนที่มีคุณภาพ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับเท่าใด

มีเพียงสัญญาปากเปล่า แต่ไร้สัญญาสั่งซื้อจากบริษัทเจ้าของวัคซีน แต่ละหน่วยงานโยนกันไปมา จนเมื่อมีคนรุมด่า ก็ถึงเริ่มขับเคลื่อนได้สักที

จนอดสงสัยไม่ได้ว่ารัฐบาลรับรู้และเข้าใจความหนักหน่วงของปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่มากน้อยเพียงใด

การได้อยู่บ้านหลวงฟรีๆ มีค่าตอบแทนตรงเวลาทุกเดือนของพวกท่าน เป็นสิ่งกั้นความเข้าใจเหล่านี้หรือไม่

ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องถอยออกมาให้คนที่เขามีความสามารถมาบริหารจัดการ

และหากยังไม่สำนึกทบทวนให้ดี อีกไม่นานก็คงถึงจุดแตกหัก

เมื่อถึงวันนั้น จะสำนึกเสียใจ ก็สายเกินไปเสียแล้ว!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน