คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…มันฯ มือเสือ

บัญชีทรัพย์สิน ยิ่งปิด-ยิ่งน่ากังขา – “แม้บัญชีทรัพย์สินหนี้สินของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะยื่นไว้เพื่อเป็นหลักฐานก็ตาม แต่จุดมุ่งหมายสำคัญที่กำหนดให้ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน ก็เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดินตามหลักการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดจนป้องกันปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ และการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับส่วนรวม”

คือข้อวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯ หลังมีผู้ยื่นร้องขอตรวจบัญชีทรัพย์สินพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับนายวิษณุ เครืองาม กรณีเข้าดำรงตำแหน่งทาง การเมืองหลังเลือกตั้งปี 62

โดยให้ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ของทั้ง 2 คนให้ผู้ร้องเข้าตรวจดูได้

วันจันทร์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.กล่าวถึงเรื่องนี้หลังประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ทั้ง 9 คน ว่า

หลังจากศึกษากฎหมายและปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว เห็นว่าพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กับพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ มีบทบัญญัติแตกต่างกัน

ตามกฎหมายป.ป.ช.การบอกให้ยื่นเป็นหลักฐาน ก็คือให้ยื่นเป็นหลักฐาน ยื่นมาแล้วป.ป.ช.มีหน้าที่เก็บ อย่าว่าแต่ให้คนอื่นตรวจดู แม้แต่ป.ป.ช.เองก็ไม่สามารถเปิดเผยหรือตรวจดูได้ ไม่เช่นนั้นอาจถูกฟ้องดำเนินคดี ป.ป.ช.มีความ รับผิดชอบทางอาญาที่เกี่ยวข้อง

“ที่ประชุมจึงมีมติว่า เราไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเปิดเผยสำหรับกรณียื่นเป็นหลักฐาน” พล.ต.อ.วัชรพล ระบุ

จะว่าไปก็ไม่อยู่เหนือความคาดหมาย สำหรับมติป.ป.ช.

แน่นอนมติดังกล่าวย่อมเป็นประโยชน์ ต่อพล.อ.ประยุทธ์ และ นายวิษณุ ที่จะเก็บงำบัญชีทรัพย์สิน ไว้เป็นความลับ ไม่ให้ถูกตรวจสอบได้ต่อไป

แต่อีกด้านที่ไม่เป็นผลดี คือยิ่งทำ ให้สังคมกังขามากขึ้น

ว่าหากไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินที่ชี้แจงไม่ได้ ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบังหรือเกรงกลัว ไม่ยอมเปิดให้สาธารณชนได้ตรวจสอบ

เหมือนที่คนในรัฐบาลพูดเองอยู่เสมอ

ไม่ได้ทำผิด แล้วกลัวทำไม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน