เลิกเล่นบทเหยื่อ!??
คอลัมน์ทิ้งหมัดเข้ามุม
เลิกเล่นบทเหยื่อ!?? – เป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการสีกากีอย่างรุนแรงจริงๆ สำหรับกรณี ผู้กำกับโจ้ นายตำรวจหนุ่มคนดัง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าจากการซ้อมทรมาน
แม้จะได้ตัวคนร้ายอย่างรวดเร็ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ตั้งแต่การไปรับมอบตัวโดยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ก่อนนำส่งให้ผบ.ตร.สอบปากคำด้วยตัวเองที่กองปราบปราม
รวมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ในการแถลงคดี ด้วยการให้ผู้ต้องหาโฟนอินเข้ามาเปิดใจชี้แจงที่ไปที่มาของการลงมือ
ก็ได้แต่หวังว่าผบ.ตร.จะทำให้เป็นนโยบายการแถลงข่าว โดยเฉพาะคดีการเมืองที่ผู้ต้องหาไม่ใช่อาชญากร เพียงแค่มีความคิดต่างจากอำนาจรัฐ
ได้ชี้แจงต่อสังคมว่าทำไมถึงยังยืนหยัดต่อสู้ แม้ถูกจับกุมหลายต่อหลายครั้ง แถมยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัวเหมือนผู้ต้องหาคดีอื่นๆ
ไม่เพียงแค่นั้นในเนื้อหาถ้อยแถลงของผู้กำกับโจ้ ก็สร้างความกังขาให้กับสังคมไม่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นการลงมือเพื่อรีดข้อมูล ยาเสพติด อ้างว่าทำเพื่อประชาชนชาวนครสวรรค์
กลายเป็นคำถามว่าสรุปแล้วผู้ตายเป็นพ่อค้ายา เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดหรือไม่!??
เพราะหากไม่มีการดำเนินคดีใดๆ อย่างมากก็เป็นแค่ผู้ต้องสงสัย เท่ากับเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์
แล้วไปทำกับประชาชนจนตายอย่างทรมานอย่างนี้ได้หรือ!??
แล้วที่อ้างว่าเอาถุงคลุม 5-6 ชั้น เพื่อไม่ให้ผู้ตายเห็นหน้า ก็ควรสำนึกให้ได้ว่าหากไม่อยากให้ใครเห็นหน้าก็ต้องเอาถุงคลุมตัวเอง ไม่ใช่คนอื่น
ไม่เพียงแค่นั้นพฤติการณ์ต่อมาก็ชัดเจนว่ามีเจตนาปิดบังอำพรางการตาย ทั้งการส่งศพไปโรงพยาบาล อ้างให้ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากสารเสพติด
ไปคุยกับพ่อคนตาย โกหกสาเหตุการเสียชีวิต กอดคอร้องไห้ร้องห่ม ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนฆ่า
ถ้าบอกว่านี่คือการทำเพื่อประชาชนก็น่าขนลุกสิ้นดี
ข้อเท็จจริงก็คือทำผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าไม่มีคลิปวงจรปิดชัดเจน ก็คงจะลอยนวล และมีโอกาสจะทำอย่างที่เคย ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก
จึงต้องยืนยันว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เลิกเล่นบทเหยื่อเสียที
เพราะเหยื่อที่แท้จริงก็คือประชาชนที่ถูกฆ่าอย่างทารุณ!!!
โดยรุก กลางกระดาน