คลายล็อก
เรื่องการเมือง!??
คอลัมน์ทิ้งหมัดเข้ามุม
คลายล็อก เรื่องการเมือง!?? – ดีเดย์กันวันนี้แล้ว สำหรับการ คลายล็อกดาวน์โควิด เปิดเมืองให้คนทำมาหากิน
โดยหลักๆ ก็คืออนุญาตให้ธุรกิจกิจการได้ทำมาค้าขาย ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ ร้านอาหารนั่งรับประทานได้ แต่ก็จำกัดจำนวนไม่ให้หนาแน่น
ผ่อนปรนการเดินทางข้ามจังหวัด ระบบขนส่งมวลชนต่างๆ เปิดสวนสาธารณะ ลานกีฬา สระว่ายน้ำ ให้คนได้พักผ่อนหย่อนใจกันบ้าง
แต่ก็ยังคงมาตรการเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านระหว่าง 21.00-04.00 น.
ซึ่งก็น่าสนใจและตั้งคำถามว่าศบค.ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาเป็นตัวพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเช่นนี้
จะว่าเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ก็ต้องย้อนไปดูว่าวันที่ศบค.ประกาศล็อกดาวน์ 10 จังหวัดแรก เมื่อวันที่ 10 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อ 9,326 คน เสียชีวิต 91 ราย
ส่วนวันที่ตัดสินใจคลายล็อกใน วันที่ 27 ส.ค. มีผู้ติดเชื้อ 18,702 คน เสียชีวิต 273 ราย
มองยังไงก็ยังไม่เห็นว่าสถานการณ์จะดีขึ้น??
แน่นอนว่าตัวเลขเริ่มลดลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าจำนวนการตรวจหาผู้ติดเชื้อก็ลดลงด้วยเช่นกัน
จึงไม่แปลกที่จะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการตัดสินใจครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานการเมืองที่นายกฯ เองต้องเผชิญการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แถมเป็นการอภิปรายที่มีเดิมพันสูง ได้รับความสนใจมากมาย มีการขับเคลื่อนร่วมด้วยจากกลุ่มมวลชนที่นัดแสดง พลังเรียกร้องส.ส.ไม่ให้โหวตไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์
หรือแม้แต่กรณีที่ฝ่ายค้านรณรงค์ให้ประชาชนร่วมโหวตไม่ไว้วางใจผ่านช่องทางออนไลน์
จึงต้องผ่อนปรนลดกระแสความไม่พอใจจากสังคม!??
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะกลบลบความผิดพลาดจากการบริหารโควิด ทั้งเรื่องระบบรักษา วัคซีนล่าช้า เศรษฐกิจพินาศ
ผู้คนล้มตายจากโควิดนับหมื่นราย และอีกหลายรายที่ฆ่าตัวตายเพราะบอบช้ำจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
รวมทั้งน่าเป็นห่วงว่าการผ่อนคลายครั้งนี้ หากไม่เร่งฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพให้ทั่วถึงและรวดเร็ว
การแพร่ระบาดของโควิดก็อาจจะพุ่งสูงขึ้น ยอดคนตายซึ่งก็คือชีวิตของประชาชนก็จะมากขึ้นตาม
จึงต้องเตือนว่าอย่านำความเสี่ยงของประชาชน มาเป็นตัวค้ำความมั่นคงของเก้าอี้นายกฯ
มันไม่คุ้มกันเลยจริงๆ!??
โดยรุก กลางกระดาน