ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…มันฯ มือเสือ

เด็ดธรรมนัส สะเทือนรัฐบาล?

เป็นประเด็นใหญ่วิเคราะห์กันไม่จบ กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ถูกปลดพ้นรัฐมนตรี

ผลสืบเนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดนดักซุ่มโจมตีระหว่างทางทำศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนเกือบตกม้าตาย

ตามเนื้อหาในราชกิจจาฯ เผยแพร่พระบรมราชโองการ สำทับโดยนายกฯ ไล่ไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา 171 ก็ชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร

สอดรับท่าทีเก็บตัวเงียบหลังพ่ายศึกทั้ง “ธรรมนัส-นฤมล” ตามสไตล์เสือร้าย บาดเจ็บก็แค่หลบเข้าถ้ำเลียแผล รอโอกาสกลับมา สู้ใหม่

ปล่อยพล.อ.ประยุทธ์ เป็นฝ่ายได้รับเสียงสรรเสริญเยินยอจากกองเชียร์รอบข้าง ตัดสินใจเฉียบขาดสมเป็นผู้นำ ไม่ลังเลจัดการกับผู้ใต้บังคับบัญชาคิดไม่ซื่อ หวังโค่นอำนาจ

ล่าสุดมีข่าวเตรียมรุกคืบเข้ายึดพลังประชารัฐ ผ่านการ ปรับโครงสร้างพรรคครั้งใหญ่ เป้าหมายเก้าอี้เลขาฯ พรรคของ ร.อ. ธรรมนัส

เรื่องนี้จะว่าง่ายก็ง่าย หากร.อ.ธรรมนัส หลีกทางให้แต่โดยดี

แต่จะยากขึ้นมาทันทีหากไม่รับความยินยอมจากหัวหน้าพรรคอย่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เพราะไม่เพียงแต่เป็นเลขาฯ พรรค ร.อ.ธรรมนัสยังคือ “มือขวา” ของพล.อ.ประวิตร คอยเคลียร์ปัญหาทุกอย่างตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ

สั่งปลด “มือขวา” ออกจากรัฐมนตรี ไม่บอกล่วงหน้า พี่ใหญ่น้อยใจแต่ก็ไม่ออกอาการโวยวาย เพราะจะว่าไปการปรับคนเข้าคนออกจากรัฐมนตรี ถือเป็นอำนาจนายกฯ โดยตรง

แต่กับเก้าอี้เลขาฯ พรรคเป็นคนละเรื่อง

ถึงไม่มีข้อบังคับพรรคตายตัวแต่ก็รู้กันทั่วในหมู่สมาชิก ว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นคนเลือกเลขาฯ พรรคด้วยตัวเอง

พรรคพลังประชารัฐยุค “ประวิตร-ธรรมนัส” เป็นการจับคู่หัวหน้า-เลขาฯ พรรคเข้าขาลงตัว

ด้วยบารมีของพล.อ.ประวิตร บวกความมือเติบของ ร.อ.ธรรมนัส ร่วมกันกระชับอำนาจในพรรคไว้ได้เบ็ดเสร็จ

กระทั่งมาเกิดเหตุ 2 สัปดาห์ก่อน ช่วงนั้นพล.อ.ประวิตร พยายามปกป้องพล.อ.ประยุทธ์ จากแรงเขย่าของร.อ.ธรรมนัส ถึงขั้นประกาศ “ถ้านายกฯ ไป ผมก็ไป” แต่สุดท้ายก็ได้รับผลตอบแทนอย่างที่เห็น

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แบ่งแยกบุญคุณความแค้น แถมยังตามมา ขุดรากถอนโคนถึงในพรรค

ศึกภายในพลังประชารัฐระอุ จะส่งผลถึงเสถียรภาพรัฐบาลโดยรวมหรือไม่

โปรดติดตามอย่ากะพริบตา!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน