คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…มันฯ มือเสือ
รมช.เกษตรฯกับพรรค พปชร.
ภาพหวานชื่นพี่น้อง 2 ป. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกมือไหว้ พูดคุยเอิ๊กอ๊าก เดินประคองโอบหลัง โอบไหล่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกเมื่อวันจันทร์หลังเหตุการณ์ปลด 2 รัฐมนตรี สัปดาห์ก่อน
ถูกตั้งข้อสงสัยเป็นเพียงสร้างภาพออกสื่อสยบข่าวรอยร้าว 3 ป. หรือว่าตามสำนวนไทยโบราณคือการตบหัว แล้วลูบหลัง
การสั่งปลดฟ้าผ่า “ธรรมนัส-นฤมล” โดยไม่บอกล่วงหน้า ถือว่า “น้องเล็ก” เล่นแรงเกินใจ “พี่ใหญ่” จะรับไหว
กับแค่ยกมือไหว้ ประคองโอบกอด อ้างสัมพันธ์พี่น้อง 40 ปี ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถึงปากบอกไม่งอน ไม่น้อยใจ แต่ลึกๆ เป็นอย่างไรไม่มีใครรู้
เพราะตามสภาพความเป็นทางการเมืองตอนนี้ การที่นายกฯ บอกจะไม่ปรับครม. จะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐ คงเป็นไปไม่ได้
รัฐมนตรีว่าง 2 ตำแหน่ง คนอยากเป็นและคิดว่าตัวเองควรได้เป็น ในพรรคพลังประชารัฐน่าจะมีอยู่เกินสิบคน ส่วนจะเป็นใครกันบ้างอีกสักพักคงออกอาการให้เห็น
อีกอย่างก็คือหากไม่ตั้งใครในพลัง ประชารัฐเข้าไปเป็น 2 รัฐมนตรีช่วยจะเกิดอะไรขึ้น
ลำพังกระทรวงแรงงานไม่เท่าไหร่ เพราะรัฐมนตรีว่าการเป็นคนของพลังประชารัฐอยู่แล้วคือ นายสุชาติ ชมกลิ่น
แต่กระทรวงเกษตรฯเป็นกระทรวงสำคัญ ทั้งยังเป็นฐานเสียงการเมืองขนาดใหญ่ เกี่ยวข้องกับเกษตรกรทั่วประเทศนับ สิบล้านคน ไม่ตั้งไม่ได้ ถ้าไม่ตั้งก็เท่ากับไม่มีรัฐมนตรีพลังประชารัฐอยู่เลย
เว้นเสียแต่นายกฯ จะยอมยกประโยชน์ส่วนนี้ให้ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนาไปแบบฟรีๆ
แต่ถึงนายกฯ จะใจกว้าง ก็เชื่อว่า แกนนำพลังประชารัฐไม่กว้างด้วย หัวเด็ดตีนขาดคงไม่ยอม
ส่วนเรื่องปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรยืนยันไม่ลาออก หัวหน้าพรรค ไม่เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคคือร.อ.ธรรมนัส รวมถึงนางนฤมล เหรัญญิกพรรค ก็ต้องรอดูว่าจะทนต่อแรงเสียดทานภายใน-ภายนอกได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงมีความพยายามยื่นมือเข้ามาจัดระเบียบใหม่ ในพลังประชารัฐด้วยตัวเอง เพราะไม่ต้องการให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนกรณีร.อ.ธรรมนัส ส่วนจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องตามดูกันต่อไป
ถึงอย่างไรก็ต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอนทั้งในครม.และพลังประชารัฐ
เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น