คดีกระสุนจริง : ทิ้งหมัดเข้ามุม

ยังเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วงสำหรับการชุมนุมที่แยกดินแดง ที่มีผู้ชุมนุมทะลุแก๊สยังคงวนเวียนปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่องมาแล้วร่วมเดือน

ขณะที่การตอบโต้ของเจ้าหน้าที่คฝ. ก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งยุทธวิธีที่ใช้ การบุกจับกุมในเคหสถาน หรือการใช้กำลังที่น่ากังขาว่าจะเกินขอบเขตที่กฎหมายให้อำนาจไว้

รวมทั้งมุมมองของเจ้าหน้าที่ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ คือกลุ่มก่อความไม่สงบ สร้างความวุ่นวาย เหมาะสมแล้วที่จะต้องถูกปราบปรามจับกุม

รวมทั้งการใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งอย่างที่เห็นผู้ชุมนุมนับร้อยถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี แถมยังลามไปถึงผู้ปกครอง ที่จะต้องมีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก

ส่วนตำรวจคฝ.เอง ก็ถูกแจ้งความกลับแล้วหลายกรณี ทั้งจากการใช้กระบองรุมตีผู้หญิงที่ขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน แม้เหยื่อจะยกมือไหว้แล้วก็ตาม

ทั้งหมดจะกลายเป็นคดีความที่ต้องต่อสู้กันต่อไป และหากเป็นไปตามแนวทางที่พ.ต.อ.วชิรพงศ์ แก้วดวง รองผบก.อคฝ. ชี้แจงต่อกมธ.สภาผู้แทนราษฎร

คฝ.ที่ทำเกินกว่าเหตุ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล !??

ก็น่าเป็นห่วงตำรวจชั้นผู้น้อยที่อาจจะต้องสู้คดีกันเอง ทั้งแพ่ง และอาญา

ไม่เพียงแค่นั้นในคดีความที่เกิดขึ้นมากมาย ยังมีเรื่องของเด็กอายุ 14 และ 15 ปี ที่ถูกกระสุนจริง จากการชุมนุมที่ดินแดง ที่ไม่มีความคืบหน้าแม้ผ่านมาเดือนกว่า

จังหวะเดียวกัน พรรคก้าวไกลก็เปิดคลิปเหตุการณ์วงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัยก่อเหตุได้ถึง 2 คน

กลายเป็นคำถามว่าทำไมส.ส.ถึงทำงานได้รวดเร็วกว่าตำรวจที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง และมีความจริงจังแค่ไหนในการทำคดี

เพราะเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่ง ที่มีคนใช้อาวุธปืนยิงเยาวชนบาดเจ็บกลางเมือง

คนร้ายจะเป็นใครก็ต้องทำให้ชัดเจน

อย่าให้กลายเป็นข้อครหาว่า พอเป็นกรณีฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลถูกกระทำแล้วไม่ตั้งใจทำคดี

แต่หากตั้งใจแล้ว แต่ทำไม่ได้จริงๆ ความสามารถไม่ถึง ก็ไปขอข้อมูล ขอวงจรปิดจากส.ส.เขามาดู เผื่อจะมีแนวทางไขคดีได้

ทุกคนเขาพร้อมช่วย ไม่ต้องกลัวเสียฟอร์ม !??

รุก กลางกระดาน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน