คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…มันฯ มือเสือ
บทบาทพีระพันธุ์ ในพลังประชารัฐ
บทบาทพีระพันธุ์ในพลังประชารัฐ : วิเคราะห์กันโขมงโฉงเฉง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลัง ประชารัฐ ทั้งที่เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 4 ต.ค. จากนั้นวันที่ 5 ต.ค. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เซ็นคำสั่งแต่งตั้งทันที
ปัจจุบันนายพีระพันธุ์ ยังมีตำแหน่งการเมืองเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ปลายปี 62
ที่ผ่านมามีชื่อเข้าไปข้องแวะกับการเตรียมตั้งพรรคของ “ปลัดฉิ่ง” นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดมหาดไทย
เพื่อเป็น “พรรคทางเลือก” ให้ผู้มีอำนาจปัจจุบัน
แต่ล่าสุดมีกระแสข่าวแผนตั้งพรรคของปลัดฉิ่ง ต้องพับไว้ก่อน เนื่องจากไม่พร้อมทั้งเรื่องทุนทรัพย์และตัวบุคคลที่กล้าเสี่ยงร่วมหัวจมท้าย
ทำให้ผู้มีอำนาจต้องปรับแผนพึ่งพาพลังประชารัฐต่อไป
การมาอยู่พลังประชารัฐของนายพีระพันธุ์ ด้านหนึ่งจึงถูกมองว่ามาในฐานะ “นอมินี” ของบางคนที่ต้องการมีสัดส่วน “ถือหุ้นอำนาจ” ในพลังประชารัฐเพื่อเป็นหลักประกัน ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จากคำมั่นสัญญาของพล.อ.ประวิตรที่ยืนยัน พลังประชารัฐจะยังชูพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ สมัยที่ 3 ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
บางคนโต้แย้งข้อสังเกตนี้ พล.อ. ประวิตรเองก็ยังอ้างการตั้งนายพีระพันธุ์ เป็นที่ปรึกษาเพื่อให้มาแบ่งเบางานหัวหน้าพรรคของตนเองที่มีอยู่เยอะ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่างานอะไร บอกแค่กว้างๆ ว่าช่วยงานทุกเรื่อง
ซึ่งก็แปลก พล.อ.ประวิตรเพิ่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเมื่อไม่กี่วันก่อน ให้มาลุยงานเตรียมการเลือกตั้งโดยเฉพาะ
ขณะที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาฯพรรคหลังถูกปลดจากรัฐมนตรี ก็น่าจะมีเวลาทำงานให้พรรค แบ่งเบาภาระพล.อ.ประวิตรได้มาก
การตั้งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคโดยไม่ระบุขอบข่ายงานชัดเจน เหมือนตั้งขึ้นลอยๆ จึงไม่สมเหตุผลความจำเป็น
เว้นเสียแต่จะมีรายการ “คุณขอมา” เพื่อเป็นหลักประกันบางอย่าง
บางคนมองไปไกลว่า นายพีระพันธุ์อาจเป็น “นายกฯ สำรอง” หากเกิดอุบัติเหตุกับพล.อ.ประยุทธ์ จนไม่สามารถไปต่อได้
แกนนำพรรคบางคนปฏิเสธ ไม่เคยได้ยินข่าวดังกล่าวแม้แต่นิดเดียว
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องที่ไม่เคยได้ยิน ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้