คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…รุก กลางกระดาน
‘งบกลาง’ ใช้ยังไงกันดี
ดูเอาจริงเอาจังเป็นแน่แท้ สำหรับแผนจะดึงเอาซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง ลิซ่า แบล็กพิงก์ นักร้องเค-ป๊อป สัญชาติไทย และอันเดรอา โบเชลลี นักร้องโอเปร่า ชาวอิตาลี มาร่วมเคานต์ดาวน์ปีใหม่ในประเทศไทย
ถึงขั้นกำหนดการสนับสนุนงบประมาณประเทศที่มาจากภาษีประชาชน ในส่วนของงบกลาง 100 ล้านบาท มาเป็นค่าดำเนินการ
ซึ่งสอดรับการนโยบายการเปิดประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะเปิดให้ชาวต่างชาติ 46 ประเทศที่ได้รับวัคซีนครบโดส เข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว
ท่ามกลางความเป็นห่วงในสถานการณ์ที่การฉีดวัคซีนในประเทศเอง ยังไม่เข้าเป้า 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ซึ่งจะสุ่มเสี่ยงกับการระบาดระลอกใหม่
รวมทั้งหากขาดความชัดเจนในแผนรับมือ แทนที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศในด้านการเติบโตทางธุรกิจต่างๆ อาจจะต้องย่ำแย่ลง หากต้องปิดประเทศอีกครั้ง
เพราะเท่ากับสรรพกำลังของผู้ประกอบการที่ใช้เป็นลมหายใจสุดท้ายย่อมเท่ากับเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
อีกประเด็นก็คือการจัดงานกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิการเคานต์ดาวน์อย่างที่ว่าไว้ข้างต้น แน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากเห็นแผนที่จับต้องได้ แต่ก็ต้องประกอบด้วยประสิทธิภาพและประสิทธิผลด้วย
หากผลตอบแทนกลับมาไม่คุ้มค่าก็เท่ากับการขี่ช้างจับตั๊กแตน รวมถึงสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ ถือว่าเหมาะสมกับการลงทุนหรือไม่
ยิ่งเงินที่ใช้ไปเป็นภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ยิ่งต้องคิดให้รอบคอบ
นี่ยังไม่รวมกับประชาชนคนไทยเอง โดยเฉพาะศิลปิน นักดนตรี ที่ต้องตกงานขาดรายได้อย่างยาวนาน
หรือกระทั่งแรงงานที่ต้องตกงานเพราะบริษัทปิดกิจการ และเรียกร้องให้นำงบกลางมาใช้เยียวยาบรรเทาทุกข์ซับน้ำตา
ก็ต้องประสบปัญหาการอ้างเรื่องระเบียบราชการไม่รองรับ ไม่สามารถใช้งบกลางได้ ไม่เหมือนกับการจ้าง นักร้องมาร่วมเคานต์ดาวน์
จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่รับผิดชอบควรพิจารณาดำเนินการในการใช้งบกลาง ไม่ให้เกิดกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนที่จ่ายภาษี
สงสัยว่าเป็นพลเมืองชั้นไหนกันแน่!??