คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…มันฯ มือเสือ

ข้าวโลละ5บาทนกหวีดที่หายไป

นอกจากปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ราคาน้ำมันยังส่งผลกระทบต่อชาวนาโดยตรง

ข้าวเปลือกก.ก.ละ 5 บาท ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ขาย 1 ก.ก.เอาเงินไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองเดียวยังไม่ได้

น้ำมันราคาพุ่งไม่หยุดทำให้การทำนามีต้นทุนสูงขึ้น

ชาวนากาฬสินธุ์มีที่นา 10 ไร่ ปลูกข้าวเหนียวพันธุ์ กข.22 และกข.6 ทำนาหว่าน ประหยัดต้นทุนค่าแรงถอนกล้าและปักดำ

ปี 63 ได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 400 ก.ก. ขายข้าวเปลือกได้ก.ก.ละ 6 บาท หักค่าความชื้นและข้าวปลอมปน ถือว่าขาดทุน ปีนี้หันมาทำนาดำ หวังเพิ่มผลผลิตและคัดข้าวปลอมปนได้ง่าย ตัดปัญหาพ่อค้าคนกลางกดราคา

ปรากฏราคาตกเหลือก.ก.ละ 5 บาท น้ำตาตกใน เพราะเฉลี่ยต้นทุนต่อไร่ 5,000-6,000 บาท

ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ค่ารถไถ ค่าปุ๋ย ค่าสูบน้ำ ค่าแรงถอนกล้าและปักดำ ค่ารถเกี่ยว ค่าขนส่ง สรุป 10 ไร่ลงทุนไป 56,000 บาท ได้ข้าวเปลือก 4,000 ก.ก. ขายก.ก.ละ 5 บาท เป็นเงิน 20,000 บาท

ขาดทุน 36,000 บาท แถมได้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

ส่วนชาวนาอุดรฯ บอกว่า หลังรู้ข่าวข้าวเปลือกเหลือ 5 บาท/ก.ก. เสียใจมาก กว่าจะปลูกข้าวมาเป็นรวง เป็นเมล็ดข้าว ต้องลำบากตรากตรำอาบเหงื่อต่างน้ำ

ทำนาปัจจุบันต้นทุนสูง ผลจากราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด ส่งผลให้ปุ๋ยแพง ค่าแรงเกี่ยวข้าวแพง อะไรก็แพงหมด

ปีไหนแล้งต้องซื้อน้ำมันมาสูบน้ำเข้านา ปีไหนฝนท่วมนาก็ต้องซื้อน้ำมันมาสูบน้ำออกไม่ให้ข้าวเน่าเสียหาย

“อยากฝากถึงท่านนายกฯ ให้ช่วยชาวนา พยุงราคาข้าวเปลือกให้ชาวนา อย่ามัวแต่ไปพยุงราคาข้าวสารให้โรงสีและนายทุน สงสารชาวนาตาดำๆ บ้าง หลังทราบข่าวราคาข้าวเปลือก ชาวนาในหมู่บ้านแทบจะกอดคอกันตาย–

–ตั้งแต่เกิดมาเป็นลูกชาวนา 60 ปี ไม่เคยเห็นราคาข้าวเปลือกตกต่ำสวนทางราคาน้ำมันหรือต้นทุนขนาดนี้ หากยังไม่มีอะไรดีขึ้นก็อยากจะเดินทางไปถามท่านนายกฯ ถึงที่หน้ารัฐสภา หากมี แกนนำพาไป แต่ไม่ได้ไปสร้างความ เดือดร้อน”

เพราะแบบนี้ไง มันแปลกตรงไหนที่ชาวนาจะคิดถึงนายกฯ คนทำให้ขายข้าวได้ตันละเป็นหมื่น

พอๆ กับคิดถึงพวกที่เคยเป่านกหวีด จะเป็นจะตายกับโครงการจำนำข้าว

ตอนนี้ข้าวเปลือกเหลือก.ก.ละ 5 บาท ยิ่งปลูกยิ่งขาดทุน ยิ่งเป็นหนี้

ไม่รู้พวกนี้นกหวีดติดคอตายแล้วหรือยัง?

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน