คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…รุก กลางกระดาน

ต้องคลี่คลายคดีในม็อบ

เป็นเรื่องที่ต้องคลี่คลายให้ได้ โดยเร็ว สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ในการชุมนุมที่แยกปทุมวัน ก่อนเดินเท้าไปยื่นหนังสือที่สถานทูตเยอรมัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ชุมนุม อย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บร้ายแรง โดยมีการระบุว่าถูกกระสุนปืนจริง

จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งออกมาให้ข้อมูลชัดเจนว่าจริงๆ แล้วเป็นกระสุนปืนจริงหรือไม่ และมาจากฝั่งไหน

รวมทั้งต้องจับกุมผู้กระทำความผิดมาให้ได้อย่างรวดเร็ว

เพราะการปล่อยทิ้งไว้นานเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในความยุติธรรมของบ้านเมือง

ทั้งนี้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็เกิดกรณีของนายวาฤทธิ์ สมน้อย เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ถูกยิงคอใกล้กับสน.ดินแดง

นอนรักษาตัวในไอซียูนานกว่า 2 เดือน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เพียง 1 คน ทั้งที่คลิปจากวงจรปิดที่ฝ่ายค้านนำมาเปิดเผย ก็ชัดเจนว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 แน่นอน

แถมยังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีจนไปถูกจับที่จ.กาญจนบุรี ทำไมถึงได้รับการประกันตัว

การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมก็ดู ล่าช้า และไม่ปรากฏข้อมูลใดๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เอาจริงเอาจังน้อยกว่าตอนจับ ‘น้องไข่เน่า’ ดาวดังที่ปล่อยคลิปในโอนลี่แฟนด้วยซ้ำ

จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์สงสัยว่าคนที่ถูกจับนั้นเป็นคนร้ายตัวจริงหรือไม่!??

ดังนั้นการจะรื้อฟื้นความเชื่อมั่น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริง ของทั้งคดีนายวาฤทธิ์ และคดีที่เพิ่งเกิดขึ้น

ตั้งคณะทำงานดูแลคดีอย่างจริงจัง พร้อมเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณะได้รับทราบเป็นระยะ

สร้างบรรทัดฐานของการทำคดี ฟื้นความเชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ

ให้ประชาชนหวังพึ่งพาได้บ้าง ก็คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย!!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน