คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…เภรี กุลาธรรม
ลุกขึ้นยืนใหม่ แล้วสู้ต่อไป
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ปีที่แล้ว ที่ประชุมรัฐสภา ตีตกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย พ.ศ.2560 ที่โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ที่มีประชาชนเข้าชื่อ จำนวน 98,041 คน
ด้วยผลโหวตรับเสียงสนับสนุน 212 เสียง เป็นของ ส.ส. 209 และ ส.ว. 3 คน
ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 139 เสียง และงดออกเสียง 369
มีส.ว.ให้ความเห็นชอบไม่ถึง 84 คน
วันที่ 17 พ.ย.ปีนี้ ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ก็มีมติไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. ..
ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำ กลุ่มรี-โซลูชั่น กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 135,247 คน เป็น ผู้เสนอ
รับหลักการ 206 เสียง ไม่รับหลักการ 473 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง
ที่รับหลักการ เป็น ส.ส. 203 เสียง เป็น ส.ว.เพียง 3 เสียง
ที่ไม่รับหลักการ เป็น ส.ส. 249 เสียง เป็น ส.ว.ถึง 224 เสียง
นายพริษฐ์ เจ้าของร่าง เปิดเผยว่าผ่านมาเกือบ 3 ปีตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด 3 รอบ
มีเพียงร่างเดียวที่ผ่านได้ คือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจ
พร้อมกับตั้งคำถามว่านี่หรือคือนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ นี่หรือ คือเนื้อหาสาระสำคัญที่พรรคร่วมรัฐบาล บางพรรคเคยประกาศไว้ว่าเป็นเงื่อนไข เข้าร่วมบริหารประเทศ
ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในนามคณะก้าวหน้า ที่ร่วมเสนอและชี้แจงด้วย ระบุว่าประชาชนที่เข้าชื่อและสนับสนุนแต่อาจไม่ทันได้ลงชื่อ และประชาชนที่ติดตามการประชุมสภาตลอด 16 ชั่วโมง อย่าเพิ่งสิ้นหวัง พวกเรายังมีลมหายใจ ยังมีความคิด และยังมีกำลัง
ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทำได้ยากยิ่ง แต่หากหยุดเคลื่อนไหวรณรงค์ พวกเขาก็จะอยู่กับรัฐธรรมนูญที่เขาออกแบบได้ต่อเนื่อง ไปตลอดกาล
ดังนั้น ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญตัวจริงต้องเดินหน้า ต่อไป แม้ว่าจะไม่สำเร็จกี่ครั้งก็ต้อง ลุกยืนขึ้นมาใหม่ ต่อสู้ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้สำเร็จให้ได้
ขอให้กำลังใจและสู้ต่อไป!!