“มันฯ มือเสือ”
ปมซ้อนปม ปัญหาซ้อนปัญหา
กรณีสมาชิก สนช.จำนวนหนึ่ง เตรียมเข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตีความร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือกฎหมายลูกป.ป.ช.
กรณีบทเฉพาะกาลมาตรา 178 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
เนื่องจากสมาชิก สนช.เสียงส่วนใหญ่ลงมติผ่านร่างโดยให้ยกเว้นลักษณะต้องห้าม มีผลให้กรรมการป.ป.ช. ชุดปัจจุบันที่หลายคนมีลักษณะต้องห้าม ได้ดำรงตำแหน่งต่อไป
ไม่ต้องถูกรีเซ็ต หรือเซ็ตซีโร่
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีหลายความเห็น หลักๆ เช่น
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. มีความเห็นว่าควรจะต้องเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เด็ดขาด เพื่อ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลังหากกฎหมายใช้บังคับแล้ว
ขณะที่ตัวของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ซึ่งถูกโจมตีมาตั้งแต่วันแรกว่า ได้ตำแหน่งมาเพราะสนิทสนมกับผู้ใหญ่ในคสช.บางคน
ก็ไม่คัดค้านในเรื่องนี้ แถมบอกว่าดีใจด้วยซ้ำ เชียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์หาก สนช.จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการทำงานในอนาคต
หากศาลฯ ตีความว่าร่างกฎหมายมิชอบ ตนเองก็พร้อมพ้นตำแหน่งทันที
ต้องถือเป็นเดิมพันที่ยุติธรรมดี
แต่เรื่องนี้ไม่ว่าออกหัวออกก้อย รัฐบาล คสช.น่าจะกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย
ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่กับเสียงลือเสียง เล่าอ้างที่ว่า ปัญหาที่เกิดกับป.ป.ช. ตอนนี้มาจากการที่ “ขั้วอำนาจเก่าแก่” เริ่มไม่ปลื้มรัฐบาล คสช.ของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จึงส่งคนในเครือข่ายออกมาตีรวน หาเรื่องกระทบชิ่งไปถึง “ผู้ใหญ่ใน คสช.” บางคนซึ่งเป็นเสาค้ำบัลลังก์อำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์
ด้วยเชื่อว่า หากโค่นเสาค้ำนี้ลงได้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะไม่เหลือใครคอยช่วย ลดแรงปะทะ
เพราะที่ผ่านมาใช้กองหนุนอื่นๆ ไปจนหมดแล้ว
