ผ่านมาแล้ว 16 ปีสำหรับเหตุการณ์การรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ซึ่งถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่นำพาบ้านเมืองมาถึงจุดนี้

แน่นอนว่าก่อนจะถึงดีเดย์ในการรัฐประหาร สถานการณ์ก็คุกรุ่นมาเป็นระยะ

ไม่ว่าจะเป็นการออกมาต่อต้านรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) การเคลื่อนขบวนของมวลชน การเรียกร้องของนักวิชาการ

มีการนำข้อมูลต่างๆ มาโจมตีทั้งเรื่องการขายหุ้นชินคอร์ป การทำบุญในวัดพระแก้ว

จนกระทั่งนายกฯ ทักษิณ ตัดสินใจยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ถึงขั้นการประกาศเว้นวรรคทางการเมือง ไม่รับตำแหน่งนายกฯ

มีการใช้กระบวนการตุลาการภิวัฒน์ เพื่อจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าว

ในที่สุดแทนที่จะเลือกใช้วิธีตามรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

กองทัพโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ก็ทำรัฐประหารยึดอำนาจ

เมื่อเวลาผ่านมา 16 ปี และเกิดรัฐประหารอีกครั้งในปี 2557 นำพาประเทศมาสู่จุดนี้

ก็พอจะสรุปรับรู้กันในสังคมว่าการรัฐประหาร หรือการใช้อำนาจนอกระบบมาจัดการกับปัญหาทางการเมือง ไม่ใช่ทางออกที่ดี ซึ่งนอกจากที่จะแก้ปัญหากลับเป็นการเพิ่มปัญหาให้มากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ

เหตุการณ์ดังกล่าว จะเป็นที่น่าจดจำก็คือชื่อของนายนวมทอง ไพรวัลย์ โชเฟอร์แท็กซี่ ที่แสดงออกด้วยการต่อต้านรัฐประหารด้วยชีวิต

ตอบโต้โฆษกทหารที่ด้อยค่าว่าไม่มีใครยอมตายเพื่อประชาธิปไตย

เป็นเรื่องที่ต้องเชิดชูเล่าขานกันอีกนานเท่านาน

กับอีกเรื่องที่ต้องจำฝังใจ ก็คือการรัฐประหารครั้งนั้นและที่ผ่านๆ มาไม่ได้เกิดจากเงื้อมมือทหารเพียงอย่างเดียว

แต่ยังมีพวกนักการเมืองนั่งร้านคอยปลุกปั่นสถานการณ์ให้สุกงอม ปฏิเสธช่องทางตามกลไกประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดรัฐประหาร

ทำซ้ำมาตลอดตั้งแต่ปี 49 มาจนถึงปี 57 จนกระทั่งเลือกตั้ง 62 นั่งร้าน-คานหามก็ยังคงทำหน้าที่

และยังน่าตกตะลึงที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เคารพเสียงประชาชนทั้งที่การกระทำกลับสวนทาง

อำนาจประชาชนในการเลือกตั้งที่จะมาถึงจึงต้องตระหนักรู้และลงทัณฑ์กลุ่มคนเหล่านี้

คนที่พาประเทศชาติมาถึงจุดนี้ โดยไม่ยอมรับผิดชอบอะไรเลย!!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน