“รุก กลางกระดาน”
น่าเป็นห่วงว่าจะบานปลายกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
สำหรับการลุยดำเนินคดีกับกลุ่มประชาชนที่ชุมนุมเพื่อเรียกร้องการเลือกตั้งและยุติการสืบทอดอำนาจของคสช. ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
โดยแจ้งข้อหาผิดกฎหมายอาญา มาตรา 116 และขัดคำสั่งคสช. และพ.ร.บ.การชุมนุม
ออกหมายเรียกผู้ชุมนุม 7 คนในล็อตแรก และอีก 32 คน ในล็อตที่ 2
และมีท่าทีว่าจะออกหมายเรียกเพื่อแจ้งข้อหาบุคคลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าการดำเนิน คดีกับกลุ่มก้อนทางการเมืองอื่นๆ
เพราะคนที่ถูกหมายเรียก มีทั้งนักกิจกรรมเพื่อสังคม นักศึกษา ทนายความ หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชนที่ไปปฏิบัติหน้าที่
เป็นประชาชนทั่วไปธรรมดา ไม่ใช่กลุ่มการเมืองที่ถูกจัดตั้ง ที่มีท่อน้ำเลี้ยงมาจากไหนอย่างที่คสช.เป็นห่วง
การออกหมายเรียกเช่นนี้แสดงว่าคนทั่วไปที่อาจจะบังเอิญอยู่ผิดที่ผิดเวลา ก็สามารถถูกเหมารวมดำเนินคดีได้เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ข้อเรียกร้องของพวกเขา ก็ไม่ได้รุนแรงที่จะสร้างความแตกแยกให้กับสังคม
นอกจากนี้ในอดีตหลายต่อหลายครั้ง ท่าทีของหัวหน้าคสช. และรัฐบาล ก็พูดจาหนักแน่นตรงกันในเรื่องก้าว สู่ประชาธิปไตย ในเรื่องการจัดการเลือกตั้ง ทั้งกับประชาชนคนไทยและผู้นำโลก
แม้ต่อมาจะเลื่อนแล้วเลื่อนอีกก็ตาม
แต่ก็เป็นคำสัญญาของหัวหน้า คสช.เอง!!?
ทำไมการเรียกร้องให้ทำตามสัญญา ถึงต้องถูกปฏิบัติตัวประดุจอาชญากร
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คสช.จะต้องระมัดระวังการแก้ไขปัญหาที่ละเอียดอ่อนนี้ให้จงหนัก
ยิ่งเป็นช่วงที่กองหนุนหดหาย เหมือนดังคำที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เตือนไว้ ยิ่งต้องระมัดระวัง
ไม่เช่นนั้น “ขาลง” ที่ต้องเผชิญ
อาจจะมาเร็วจนตั้งรับไม่ทัน