“สับไก กระสุนธรรม”
ละครทีวีแนวดราม่าเรื่อง “ล่า” บริษัท เดอะวัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เพิ่งจะถูกพรรคเพื่อไทยตำหนิกรณีนำโลโก้พรรคไปดัดแปลงเพื่อประกอบฉากให้ร้ายตัวละครฝ่ายผู้ร้ายเมื่อไม่นานมานี้ กลับเกิดประเด็นขึ้นใหม่ที่คล้ายกันอีก
เมื่อนำภาพนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ไปแปะในแฟ้มประกอบฉากให้ตัวละครผู้ร้ายในเรื่องตามไปเก็บ
ทางอธิบดีจึงต้องทำจดหมายท้วงติงไปยังเจ้าของละคร ว่านอกจากนำภาพบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ยัง ไม่เหมาะสมและอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ
กรณีดังกล่าวอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก เพราะภาพปรากฏในจอเพียงจังหวะสั้นๆ แต่ผู้เป็นเจ้าของรูปหรือผู้ที่รู้จักย่อมสังเกตเห็นได้ทันที
การคำนึงถึงบุคคลที่ถูกนำรูปไปใช้เป็นเรื่องสำคัญ และกรณีนี้ไม่น่าเกิดขึ้นซ้ำกับกรณีของพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งเป็นตัวอย่างให้เห็น
ไม่ใช่เพราะประเด็นทางการเมืองที่มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนเท่านั้น แต่เป็นการเคารพสิทธิของผู้อื่นซึ่งผู้จัดละครต้องคำนึงถึงเช่นกัน
แม้ละครจะเป็นสื่อบันเทิง แต่หลายๆ ครั้งก็เคยถูกโยงมาเป็นประเด็นทางสังคมและการเมืองด้วย
ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีของละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับตัวละครทางการเมือง ถูกถอดกลางอากาศในช่วงจังหวะใกล้ถึงตอนจบ และยังคงเป็นปริศนาถึงปัจจุบันว่าต้นตอของการประท้วงนั้นเกี่ยวข้องกับคำสั่งรัฐบาลในปี 2556 จริงหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีประเด็นทางสังคมที่หลายๆ เรื่องยังตอกย้ำให้ผู้ชายมีบทบาทเป็นเจ้าเข้าเจ้าของผู้หญิง ใช้กำลังและความรุนแรงทางเพศในการควบคุม
รวมถึงเนื้อหาดราม่าที่วนเวียนอยู่กับความรัก การช่วงชิง หรือแก้แค้น
ในเมื่อละครเป็นสื่อที่เข้าถึงประชาชนได้ง่าย ผู้จัดละครจึงควรคิดสร้างสรรค์และพัฒนาเนื้อหาให้จรรโลงสังคมมากขึ้น พร้อมกับการผลิตที่ระมัดระวังและคำนึงถึงผู้ได้รับผล กระทบด้วย