หัวร่อไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้เลยจริงๆ เมื่อได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องข้อเสนอนิรโทษกรรม

ไม่ว่าจะเป็นการระบุว่าการนิรโทษกรรมไม่เกี่ยวกับการปรองดอง ยืนยันต้องเคารพกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม

รวมทั้งการประชดว่าถ้าจะนิรโทษกรรมก็คงต้องปล่อยกันออกมาทั้งคุก

เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เอง คือคนที่ทุบโต๊ะกลางการประชุมหารือระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ที่สโมสรกองทัพบก เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57

ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เป็นการกระทำความผิดฐานเป็นกบฏต่อราชอาณาจักร ซึ่งมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต!!!

แต่ที่รอดมาได้ เป็นนายกฯ จากคณะรัฐประหาร 4 ปี และเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง 62 อีก 4 ปี ก็เพราะการนิรโทษกรรมตัวเอง

เรียกได้ว่า หากจะหาคนในประเทศนี้ที่ได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรม ก็ต้องมีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน








Advertisement

ไม่เพียงแค่นั้น หลังนิรโทษตัวเองแล้วก็ยังออกม.44 ให้อำนาจครอบจักรวาลกับหัวหน้าคสช. ซึ่งก็คือพล.อ.ประยุทธ์เอง ออกคำสั่งได้สารพัดสารเพ โดยไม่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายใดๆ

จึงเป็นเรื่องที่น่าตลก เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ออกมาพูดเรื่องการเคารพกฎหมาย หรือการยอมรับกระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ในด้านการเมือง ย่อมเห็นได้ว่าสภาวะการเมืองในประเทศที่เต็มไปด้วยการแตกแยกขัดแย้งรุนแรง ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สาเหตุประการหนึ่งก็คือการใช้อำนาจทางกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม

แน่นอนว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่ยาวิเศษที่แก้ได้ทุกอย่าง แต่อย่างน้อยก็เป็นก้าวแรกที่ลดการเผชิญหน้า เคลียร์คดีที่ถูกสาด ให้แต่ละฝ่ายกลับไปยังที่ตั้ง

ก่อนจะหันหน้าพูดจากันหาทางออก ซึ่งเป็นแนวทางที่ประเทศอารยะเขาใช้กัน ไม่ใช่อะไรก็ห้ามพูด อะไรก็ติดคุก

ดังนั้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงตัวว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ยังมองไม่ออกว่าจะแก้ปัญหาการเมืองเหล่านี้ได้อย่างไร

ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าหากสมัยหน้านายกฯ ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ สภาพการณ์ก็คงไม่แตกต่างจากที่เป็นมา หนำซ้ำยังอาจจะย่ำแย่รุนแรง เพราะกลายเป็นคู่ขัดแย้งกันไปเสียแล้ว

จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องทบทวนให้ชัดเจนว่าสภาพ 8 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร

และอยากให้อนาคตข้างหน้าเป็นยังไงต่อ!!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน